วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2552

ช้างน้ำ ซะงั้น

จากข่าว พบ ช้างน้ำ วอนนักวิชาการพิสูจน์
ช้าง น้ำ โผลอีก อดีตพ่อค้าไม้โชว์สัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายช้างจิ๋ว อ้างชาวกะเหรี่ยงจับได้ แต่ตายจึงมอบให้ตั้งแต่ปี 2544 นำไปเอ็กซเรย์พบมีโครงกระดูกชัด วอนนักวิชาการพิสูจน์ความจริง

ภาพถ่ายช้างน้ำพร้อมภาพถ่ายฟิล์มเอกซเรย์ เมื่อวันที่ 1 กันยายน ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก ร.ต.พงษ์ศักดิ์ เทพเทียน ผู้บังคับหมวดฐานปฏิบัติการบ้านวาเลย์ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก ว่า ระหว่างลงพื้นที่ได้พบกับชาวบ้านใน ต.วาเล่ย์ ชื่อนายชูยศ อดีตพ่อค้าไม้ที่เคยไปรับซื้อไม้ในฝั่งพม่า ปัจจุบันประกอบอาชีพทำสวนมะละกอ และไร่ข้าวโพด ในเขต ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ โดยนายชูยศได้แจ้งต่อ ร.ต.พงษ์ศักดิ์ ว่า มีสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายช้างขนาดเล็ก หรือที่เรียกว่าช้างน้ำไว้ในครอบครอง 1 ตัว โดยได้มาจากชาวกะเหรี่ยงในฝั่งพม่าที่ไปทอดแหในแม่น้ำกลางป่าลึก แล้วสามารถจับได้ จากนั้นช้างน้ำตาย ชาวกะเหรี่ยงจึงนำมาให้นายชูยศ เมื่อปี 2544

ร.ต.พงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อมาปฏิบัติงานในพื้นที่ได้พบกับนายชูยศ และนายชูยศได้นำ ช้างน้ำ มาให้ดู โดยมีขนาดลำตัวยาว 7 เซนติเมตร ที่หัวมีงาลักษณะเหมือนงาช้าง มีงวง มีหางยาว ที่เท้ามีลักษณะเหมือนพังพืด หลังได้มาครอบครอง นายชูยศเกิดความสงสัยอย่างมาก เนื่องจากหลายปีมีกระแสข่าวการพบ ช้างน้ำ จากหลายที่ แต่พิสูจน์แล้วกลับเป็นของปลอม จึงได้นำช้างน้ำที่มีอยู่ไปเอกซเรย์ที่ โรงพยาบาลพะวอ และอีกหลายแห่ง พบว่ามีโครงกระดูกอยู่ภายในด้วย และเก็บไว้ในบ้านกระทั่งปัจจุบัน จนเมื่อพบกับตนจึงให้ไปดู โดยนายชูยศบอกว่า อยากพิสูจน์ว่าเป็นของจริงหรือไม่ อยากให้นักวิชาการ หรือผู้ที่สนใจไปพิสูจน์

ทั้งนี้ ร.ต.พงษ์ศักดิ์ ได้ส่งภาพถ่ายช้างน้ำพร้อมภาพถ่ายฟิล์มเอกซเรย์มาให้ผู้สื่อข่าวพิสูจน์ ซึ่งพบว่าสัตว์ ในภาพ มีลักษณะคล้ายช้าง นอนตัวเอียง มีงา และองค์ประกอบแขนขาชัดเจน แต่มีขนาดเล็กส่วนภาพในฟิล์มเอกซเรย์ก็เห็นโครงสร้างลักษณะโครงกระดูกอยู่ ภายใน
http://hilight.kapook.com/view/40993
-----

สมมตินะ สมมติว่ามันเป็นเรื่องจริง
อืม แล้วจะทำไงต่อไปล่ะ?.... ขอหวยหรือไง?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น