เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 1 ก.ย. 52 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายสวน หรือนายแงน ใจแจ้ง อายุ 74 ปี ชาวบ้านวารีรัตน์ ต.ตองปิด อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ลงไปนอนอยู่ในรูภายในกระท่อมเลี้ยงไก่ ซึ่งขุดลงไปเป็นรูขนาดใหญ่ ขนาดกว้างประมาณ 1.5 เมตร ยาวประมาณ 2 เมตร อยู่ลึกลงไปจากผิวดิน ประมาณ 2 เมตร โดยได้อาศัยอยู่ในรูมานานประมาณ 30 กว่าปีแล้ว ซึ่งขณะนี้ นายสวนยังคงอาศัยอยู่ในรูเช่นเดิม โดยนายสวนมีร่างกายซูบผอม ไม่สวมเสื้อ จะนอนอยู่ภายในรู โดยลูกหลานจะนำข้าวปลาอาหารมาส่งให้นายสวนกินอยู่ภายในรู นายสวนจะอาศัย ช่วงที่ไม่มีคนอยู่ขึ้นมาอาบน้ำ อุจจาระ ปัสสาวะ จากนั้นก็จะกลับลงไปอยู่ในรูเหมือนเดิม และในช่วงที่มีการทำไร่ ทำนา นายสวนก็จะขึ้นมาช่วยญาติพี่น้องคือ นายผาย ใจแจ้ง อายุ 88 ปี พี่ชายคนโต และนายไข ใจแจ้ง อายุ 75 ปี พี่ชายคนที่ 2 ทำไร่ ทำนา จำนวน 20 ไร่ ที่พ่อแม่ทิ้งไว้เป็นมรดกให้ นอกจากนี้แล้วยังช่วยหาปลา โดยการทำไซลงไปดักปลามาทำเป็นอาหารผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ขณะนี้มีฝนตกอย่างหนักและต่อเนื่องในเขตพื้นที่ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่าหลุมซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของนายสวนมีน้ำไหลซึมท่วมที่นอน นายสวนหนีน้ำท่วมโดยการนำเอาไม้มายกพื้นสูงขึ้นเหนือจากน้ำ ประมาณ 1 คืบ เพื่อให้สามารถนอนได้ ภายในรูมีเพียงหม้อข้าวและตะเกียง 1 อัน อยู่ภายในรูเท่านั้น
นายสวน ใจแจ้ง กล่าวว่า ในสมัยหนุ่มตนได้ไปรับจ้างถางป่าและเลื่อยไม้ที่ภาคใต้ และได้ดื่มเหล้าอย่างหนัก และโดนยุงกัด ทำให้เป็นไข้มาลาเรียขึ้นสมอง และมีอาการขวัญอ่อนหวาดผวาง่าย ซึ่งทุกครั้งที่ได้ยินเสียงฟ้าร้อง ตนจะมีความกลัวมาก เพราะหากว่าตนโดนฟ้าผ่าตาย ใครจะมารับผิดชอบ จะไปเอาผิดกับใครก็ไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องลงไปขุดรูอยู่ เพื่อหลบซ่อนตัวจากการถูกฟ้าผ่า ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ม.ค.2551 เป็นต้นมา แต่เมื่อเวลาไม่มีฝนตกฟ้าร้องก็จะขึ้นมาช่วยญาติพี่น้องทำไร่ทำนาตามปกติ แต่เมื่อเกิดฟ้าร้อง ตนก็จะรีบลงไปอยู่ในรูทันที ส่วนเวลานอนตนก็จะนอนในรูเป็นประจำทุกวันมานานประมาณ 30 ปีแล้ว ซึ่งญาติพี่น้องทุกคนก็ไม่ได้ว่าอะไร เนื่องจากว่าตนไม่ได้มีอะไรผิดปกตินั่นเอง
ทางด้าน นายไข ใจแจ้ง อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 2 บ้านวารีรัตน์ ต.ตองปิด อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพี่ชายคนที่ 2 กล่าวว่า นายสวนเคยเป็นโรคไข้มาลาเรียขึ้นสมอง จึงทำให้มีอาการของโรคประสาท เมื่อได้ยินเสียงฟ้าร้องก็จะต้องรีบวิ่งเข้าไปอยู่ในรู แต่เป็นเรื่องปกติ เพราะว่านายสวนเป็นแบบนี้มานานหลาย 10 ปีแล้ว เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยก็พากันนำไปหาหมอ เนื่องจากว่าพวกตน 3 พี่น้อง คือ นายผาย ใจแจ้ง พี่ชายคนโต และตนเป็นพี่คนที่ 2 โดยมี นายสวน ใจแจ้ง เป็นน้องชายคนสุดท้อง ทุกคนยังเป็นโสด ไม่มีภรรยาแต่อย่างใดนั่นเองทางด้าน นายประยูร ปัสราษฎร์ อายุ 44 ปี เป็นหลานเขยของนายสวน มนุษย์รู กล่าวว่า ในช่วงเวลาปกตินายสวนจะเป็นคนชอบหาปลามาก และหาอาหารต่าง ๆ ที่อยู่ในนาเก่งมาก โดยหอยเชอรี่ที่อยู่ในถังทั้งหมด นายสวนจะไปหาเก็บมาเพื่อมาทำเป็นอาหาร ซึ่งนายไข พี่ชายคนที่ 2 จะเป็นคนทำอาหาร ส่วนการจับปลานั้น นายสวนจะนำเอาตาข่ายไปดักจับปลาในนาและลำห้วยได้คราวละมาก ๆ แต่ที่ทุกคนเห็นเป็นเรื่องปกติประจำก็คือ แม้ว่าจะมีการนั่งกินข้าวกันอยู่ แต่เมื่อเกิดฝนตกลงมาและมีฟ้าร้อง นายสวนจะรีบวิ่งไปลงรูทันที โดยไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้น เนื่องจากนายสวนเกรงว่าจะโดนฟ้าผ่าตายนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม นายสวนก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ และไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนแต่อย่างใด จะมีปัญหาอยู่ในขณะนี้ก็เพียงแค่น้ำที่ซึมเข้ามาท่วมรูที่นายสวนอาศัยเป็น ที่หลับนอนเท่านั้นเอง
ข่าวจาก มติชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น