ข่าวจาก http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9520000102679
แอปเปิ้ล (Apple) นั้นประกาศวางแผงระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ล่าสุด Mac OS X v10.6 Snow Leopard ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา ต่อไปนี้คือข้อมูล 15 ข้อของระบบปฏิบัติการเสือดาวหิมะตัวนี้
1. Snow Leopard ได้รับการการันตีว่ามีการปรับแต่งให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นกว่า OS X หลายร้อยจุด วิศวกรของแอปเปิ้ลระบุว่าได้ปรับปรุงส่วนต่างๆ บน Mac OS X รวมแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนโปรเจ็กต์ทั้งหมดนับพันรายการ
2. Snow Leopard มาพร้อมโปรแกรม Finder ที่ค้นหาได้รวดเร็วกว่าเดิม สามารถเปิดข้อความในเมลได้เร็วขึ้นสองเท่า มีโปรแกรม Time Machine ที่สามารถสำรองข้อมูลครั้งแรกได้เร็วขึ้นสูงสุดถึง 80 เปอร์เซ็นต์ (ทดสอบโดยแอปเปิ้ลในเดือนสิงหาคม 2552 เปรียบเทียบ Mac OS X v10.6 Snow Leopard รุ่นก่อนวางจำหน่าย กับ Mac OS X v10.5.8 Leopard บน MacBook 2.0 GHz และ iMac 2.66 GHz ซึ่งทั้งสองเครื่องมีหน่วยความจำ 2 กิกะไบต์)
3. โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ QuickTime ใน Snow Leopard จะให้ความสะดวกกว่าเดิมในการชม บันทึก ตัดต่อ และแชร์วิดีโอ
4. บราวเซอร์ Safari 4 เวอร์ชัน 64-บิต สามารถทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 50 เปอร์เซ็นต์ (ทดสอบโดยแอปเปิ้ลในเดือนสิงหาคม 2552 เปรียบเทียบ Safari 4 แบบ 64 บิต กับ Safari 4 แบบ 32 บิต บนระบบปฏิบัติการ Mac OS X v10.6 Snow Leopard รุ่นก่อนวางจำหน่าย ที่ทำงานบนเครื่อง MacBook 2.0 GHz และ iMac 2.66 GHz ซึ่งทั้งสองเครื่องมีหน่วยความจำ 2 กิกะไบต์)
5. Snow Leopard สามารถป้องกันระบบไม่ให้ได้รับผลกระทบจากปลั๊กอินที่มีปัญหา
6. ที่สำคัญ Snow Leopard นั้นมีขนาดเพียงครึ่งเดียวของระบบปฏิบัติการเวอร์ชันก่อนหน้านี้ ช่วยประหยัดพื้นที่บนฮาร์ดดิสก์ลงไปได้มากถึง 7 กิกะไบต์ในทันทีที่ติดตั้ง
7. Snow Leopard ถือเป็นครั้งแรกที่กองทัพแอพพลิเคชันของแอปเปิลไม่ว่าจะเป็น Finder, Mail, iCal, iChat และ Safari ถูกแปลงเป็นโปรแกรม 64-บิตเพื่อ ทำงานร่วมกับกน่วยประมวลผล 64-บิต ทำให้สามารถทำงานร่วมกับหน่วยความจำประเภทแรมที่ใหญ่ขึ้น ให้สมรรถนะที่ดีขึ้น และมีความปลอดภัยมากขึ้น ในขณะที่ยังคงรองรับแอพพลิเคชันแบบ 32-บิต ได้อย่างไม่มีปัญหา
8. Snow Leopard ยังมีการนำ Grand Central Dispatch (GCD) มาใช้เพื่อนำเสนอแนวทางใหม่ให้แก่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ในการเขียนแอพพลิเคชัน เพื่อดึงประโยชน์จากโปรเซสเซอร์แบบมัลติคอร์ออกมาให้ได้เต็มที่ รวมไปถึงการรองรับ OpenCL ซึ่งเป็นระบบมาตรฐานเปิด ที่ทำให้นักพัฒนาโปรแกรมสามารถใช้พลังของหน่วยประมวลผลกราฟิกที่มีอยู่ได้ อย่างคุ้มค่าเพื่อรองรับการประมวลผลอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากเรื่องของกราฟิก
9. Snow Leopard เป็นระบบปฏิบัติการบนเดสก์ทอปรุ่นเดียวของแอปเปิลที่รองรับการทำงานร่วมกับ Microsoft Exchange Server 2007 ทำให้ผู้ใช้สามารถเปิด Mac OS X Mail, Address Book และ iCal เพื่อส่งและรับอีเมล์ สร้างหรือตอบรับการเชิญประชุมผ่านระบบออนไลน์ รวมไปถึงการค้นหาและจัดการรายชื่อบนสมุดรายชื่อกลางของระบบบน Exchange ได้
10. ผู้ใช้สามารถอัพเกรดจาก Mac OS X Leopard มาเป็น Snow Leopard ได้ในราคา 1,190 บาท
11. สำหรับคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือเครื่องแม่ข่าย Mac OS X Server Snow Leopard วางจำหน่ายในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมคือ 18,990 บาท ไม่จำกัดจำนวนไลเซนส์เครื่องลูกข่ายที่เชื่อมต่อใช้งานกับเซิร์ฟเวอร์
12. Mac OS X เวอร์ชัน 10.6 Snow Leopard พร้อมเปิดให้ผู้ใช้อัพเกรดระบบจาก Mac OS X เวอร์ชัน 10.5 Leopard ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแอปเปิ้ล และเปิดให้สั่งซื้อได้ผ่านทางเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ของแอปเปิ้ลแล้ววันนี้ (http://store.apple.com/th)
13. Snow Leopard สำหรับหนึ่งไลเซนส์การใช้งานสนนราคาที่ 1,190 บาท และ Snow Leopard Family Pack สำหรับการใช้งานในหนึ่งครอบครัว สูงสุด 5 ไลเซนส์การใช้งาน สนนราคาที่ 1,990 บาท
14. สำหรับลูกค้าที่ซื้อแมคเครื่องใหม่จากแอปเปิ้ลหรือจากตัวแทนจำหน่ายของ แอปเปิ้ล ระหว่างวันที่ 8 มิถุนายน 2552 จนถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2552 จะได้รับแพคเกจที่อัพเดทใหม่สำหรับ Mac OS X Snow Leopard Up-to-Date โดยมีค่าจัดส่งและจัดการ 390 บาท โดยผู้ใช้ต้องยื่นขอสิทธิ์อัพเกรดแพคเกจดังกล่าว ภายในเวลา 90 วัน นับจากวันที่ซื้อสินค้า และต้องไม่เกินวันที่ 26 ธันวาคม 2552 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเรียกดูได้ที่ http://www.apple.com/asia/macosx/uptodate/
15. Snow Leopard มีความต้องการหน่วยความจำขั้นต่ำ 1 กิกะไบต์ และออกแบบมาให้ทำงานบนคอมพิวเตอร์แมคที่ใช้โปรเซสเซอร์จากอินเทล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น