วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ผลตรวจในอเมริกาบอกว่า ข้อความในTwitter 40% บ่นแค่เรื่องไร้สาระ

มันก็จริงนิ 40%ดูน้อยไปด้วยซ้ำ Twitter นั้นเดิมมีเครื่องสำหรับบ่น และแบ่งบันการบ่นกับเพื่อนๆ ว่าทำอะไรอยู่ ตอนผมรู้จักTwitterใหม่ ไปเห็นเป็นรู้หน้าเพจภาษาญี่ปุ่นก็เขียนไว้ว่า "つぶやき"(tsubuyaki)หมายถึงการบ่นอยู่แล้ว จำไม่ได้ว่าเพจหน้าอังกฤษนั้นว่าอย่างไรบ้าง แต่มันก็ไม่มีภาษาไทยนิ คนไทยก็คงแค่เล่นๆ มันไปตามกะแสไม่ได้ใส่ใจอะไรตั้งแต่แรกล่ะมั่ง

ข้อมูล
blognone : http://blognone.com/node/12760
BBC : http://news.bbc.co.uk/2/hi/technology/8204842.stm
ITmedia NEWS : http://www.itmedia.co.jp/news/articles/0908/17/news047.html

จากข่าวบอกว่า
Twitter

บริษัทวิจัย Pear Analytics ในสหรัฐได้ลองเก็บตัวอย่างข้อความใน Twitter แบบสุ่มจำนวน 2,000 ข้อความ แล้วนำมาแยกแยะเป็น 6 หมวด ได้แก่ ข่าว, สแปม, โปรโมทตัวเอง, บ่นไปเรื่อย (ต้นฉบับใช้คำว่า pointless babble), บทสนทนา และอย่างสุดท้ายคือ "tweet ที่มีคุณค่า"

ผลคือหมวด "บ่นไปเรื่อย" (เช่นข้อความว่า "I'm eating a sandwich") มีสัดส่วนสูงถึง 40% (แต่จะว่าไป Twitter ออกแบบมาเพื่อแบบนี้อยู่แล้ว?) ตามมาด้วยบทสนทนาระหว่างผู้ใช้ Twitter กันเอง 37.5% ส่วนข้อความที่มีคุณค่า กลายมาเป็นข่าวได้ อยู่ที่ 8.7%

สแปมคิดเป็น 5.85% และโปรโมทตัวเอง 3.75% แต่สัดส่วนนี้กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเริ่มมีบริษัทห้างร้านต่างๆ หันมาใช้ Twitter เป็นเครื่องมือทางการตลาดมากขึ้น


ความเห็นส่วนตัวแล้วผู้ใช้ทั่วไปควรใช้อินเตอร์เน็ตอย่างอิสระ มีความเป็นตัวของตัวเอง อย่างเพิ่งยึดติดมากเกินไป อะไรใหม่ อะไรเก่า ดี หรือไม่ดี.....


อืม.......

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น