ข้อมูล
blognone : http://blognone.com/node/12760
BBC : http://news.bbc.co.uk/2/hi/technology/8204842.stm
ITmedia NEWS : http://www.itmedia.co.jp/news/articles/0908/17/news047.html
จากข่าวบอกว่า
บริษัทวิจัย Pear Analytics ในสหรัฐได้ลองเก็บตัวอย่างข้อความใน Twitter แบบสุ่มจำนวน 2,000 ข้อความ แล้วนำมาแยกแยะเป็น 6 หมวด ได้แก่ ข่าว, สแปม, โปรโมทตัวเอง, บ่นไปเรื่อย (ต้นฉบับใช้คำว่า pointless babble), บทสนทนา และอย่างสุดท้ายคือ "tweet ที่มีคุณค่า"
ผลคือหมวด "บ่นไปเรื่อย" (เช่นข้อความว่า "I'm eating a sandwich") มีสัดส่วนสูงถึง 40% (แต่จะว่าไป Twitter ออกแบบมาเพื่อแบบนี้อยู่แล้ว?) ตามมาด้วยบทสนทนาระหว่างผู้ใช้ Twitter กันเอง 37.5% ส่วนข้อความที่มีคุณค่า กลายมาเป็นข่าวได้ อยู่ที่ 8.7%
สแปมคิดเป็น 5.85% และโปรโมทตัวเอง 3.75% แต่สัดส่วนนี้กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเริ่มมีบริษัทห้างร้านต่างๆ หันมาใช้ Twitter เป็นเครื่องมือทางการตลาดมากขึ้น
ความเห็นส่วนตัวแล้วผู้ใช้ทั่วไปควรใช้อินเตอร์เน็ตอย่างอิสระ มีความเป็นตัวของตัวเอง อย่างเพิ่งยึดติดมากเกินไป อะไรใหม่ อะไรเก่า ดี หรือไม่ดี.....
อืม.......
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น