วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ฆาตกรโหดฆ่าหั่นศพเด็ก ศิริพงษ์ เคยเป็นแก๊งยากูซ่าญี่ปุ่น

ไอ้โหด.....!

จากข่าว ฝากขังผลัดแรก มือฆ่าโหด ขอขมาศพดช.โช
ฆาตกรโหดฆ่าหั่นศพเด็ก ศิริพงษ์ เคยเป็นแก๊งยากูซ่าญี่ปุ่นตร.นำตัวมือฆ่าโหด "ศิริพงษ์" ฝากขังที่ศาลอาญารัชดาพลัดแรก และค้านประกันตัว ชี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ช่วงสายจะจัดให้ขอขมาศพ ด.ช.โชผ่านภาพ ที่ สน.ตลิ่งชัน ...

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (15ต.ค.) ในเวลา 09.00 น. พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชันจะนำตัว นายศิริพงษ์ กาญจนนิวิฐ ผู้ต้องหาคดีสะเทือนขวัญเมืองกรุง ฆ่าหั่นศพ ด.ช. โช มาคิโน อายุ 5 ขวบ และ น.ส.สุนันท์ สีสุวรรณ มาคิโน อายุ 38 ปี ผู้เป็นแม่ ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาผลัดแรก และคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และคาดว่าผู้ต้องหาจะไม่ยื่นขอประกันตัว เนื่องจากจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการประสานกับญาติ หรือเตรียมหลักทรัพย์ใดๆ โดยยอมรับการกระทำ และขอชดใช้กรรมเอง พร้อมทั้งแสดงเจตจำนง ขอขมาศพน้องโช แต่ตำรวจจะจัดให้ขอขมาภาพถ่ายของน้องโชแทน โดยจะจัดดำเนินการให้ที่ สน.ตลิ่งชัน ในช่วงสายวันนี้

ส่วนความคืบหน้าของคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมเร่งสรุปสำนวน เพื่อส่งฟ้องศาลโดยเร็วที่สุด ภายใน 30 วัน นับจากนี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีบางประเด็นที่ต้องสอบเพิ่มเติม โดยเฉพาะเรื่องเวลาในการเสียชีวิต ที่ผู้ต้องหาให้การไม่ตรงกับรายงานของแพทย์

อย่างไรก็ดี เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (14 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้คุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประทุษกรรมบนรถแท็กซี่และสาธิตท่ายิงปืน ซึ่งนายสิริพงษ์ ถือปืนมือด้านขวา ก่อนสอดปืนไว้ที่ใต้แขนซ้ายแล้วยิงไปที่เบาะหลัง 14 นัด ทำให้นางสุนันท์ และ ด.ช.โชเสียชีวิต จากนั้นคุมตัวผู้ต้องหาไปประกอบคำรับสารภาพ 14 จุด โดยมี 5 จุดสำคัญ คือ จุดยิงเหยื่อทั้ง 2 ช่วง หลักกิโลเมตร 53 ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันตก และห่างออกไปอีก 1 กิโลเมตร เป็นจุดทิ้งศพนางสุนันท์ ถัดไปเป็นที่พักบ้านเอื้ออาทร บางบัวทอง บ้านพักผู้ต้องหา ซึ่งได้นำร่างของ ด.ช.โช ไปชำแหละแยกชิ้นส่วนอำพรางคดี และจุดริมถนนราชพฤษ์ฝั่งมุ่งหน้าไปถนนเพชรเกษม ซึ่งนำถุงดำใส่ศพไปทิ้ง ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากมามุงดูเหตุการณ์

ความคืบหน้าอาการบาดเจ็บ ของ ด.ญ.มิ้นท์ แพทย์โรงพยาบาลพระราม 9 ผ่าตัดบาดแผลจากคมกระสุนได้ผลเป็นที่น่าพอใจ คาดใช้เวลาพักฟื้น 2-3 สัปดาห์ จะหายเป็นปกติ ขณะที่ตลอดทั้งวันมีบุคคลใกล้ชิด เช่น นายสมบุญ จงนาวิไล พี่ชายของบิดาน้องมิ้นท์ เข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บ แต่ตำรวจไม่อนุญาต เพราะเกรงจะกระทบต่อรูปคดี เช่นเดียวกับนายเจา ไผ่ตระกาน หรือลุงโจ ที่น้องมิ้นท์ ต้องการพบหน้าเป็นคนแรกหลังมารดาเสียชีวิต เดินทางจาก จ.นครสวรรค์ เพื่อเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของน้องมิ้นท์ พร้อมกับระบุสาเหตุฆาตรกรรมนางสุนันท์และ ด.ช.โช เป็นเพราะผู้ต้องหาต้องการล้างหนี้ที่ยืมจากผู้ตายไปจำนวนมาก


น้องมินต์ เผยนาทีเฉียดตายยกมือไหว้ขอชีวิต! เห็นแม่-น้องถูกฆ่าหั่นศพ
โหดฆ่าหั่นศพเด็กเคยสังกัดแก๊งยากูซ่าญี่ปุ่น ชี้มีรอยสักซับซ้อนท่อนแขน เร่งสอบปมทรัพย์สินขนจากตปท.หายอื้อ เพื่อนแม่เชื่อฆ่าล้างหนี้หลักล้าน ส่งจิตแพทย์ดูแล"น้องมินท์"เห็นทั้งแม่และน้องถูกสังหาร เล่านาทีชีวิตแกล้งตายก่อนถูกจับได้ ต้องอ้อนวอนขอชีวิต

"น้องมินต์"เผยนาทีชีวิต เห็นฆาตกรฆ่าแม่หั่นศพน้องต่อหน้าต่อตา

ฆาตกรโหดฆ่าหั่นศพเด็ก ศิริพงษ์ เคยเป็นแก๊งยากูซ่าญี่ปุ่นผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบปากคำด.ญ.พิชยา จงงามวิลัย อายุ 13 ปี หรือ น้องมินต์ เด็กหญิงที่รอดจาดเหตุสะเทือนขวัญ ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ฆ่าแม่และหั่นศพน้องชาย ให้การว่า ได้เดินทางจากประเทศญี่ปุ่นมายังสนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมกับมารดาและน้องชาย หลังจากนั้นได้ขึ้นรถแท๊กซี่สีชมพู ทะเบียน ทล 5979 ของนายศิริพงษ์ ผู้ต้องหา โดยมารับที่หน้าสนามบิน ต่อมาผู้ต้องหาได้ขับรถวนอยู่บริเวณรอบๆสนามบินสุวรรณภูมิอยู่สักพัก ก่อนที่จะขับรถไปยังจุดเกิดเหตุบริเวณ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ซึ่งระหว่างที่ขับรถมานั้น มารดาของตนและผู้ต้องหาไม่ได้มีปากเสียงทะเลาะกันแต่อย่างใด จนกระทั่งพอถึงจุดเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้ชักปืนออกมายิงมารดา น้องชายและตน ซึ่งส่งผลให้มารดาและน้องชาย เสียชีวิตคาที่ ส่วนตนได้รับบาดเจ็บแต่ขณะนั้นยังไม่ตาย และกลัวว่าผู้ต้องหาจะทำการฆ่าปิดปากจึงทำเป็นแกล้งตาย

ต่อมาเมื่อผู้ต้องหาได้ทิ้งศพมารดาที่บริเวณ อ.ลาดหลุมแก้ว ก่อนที่จะขับรถไปยังห้องพักที่ย่านบางบัวทอง เมื่อมาถึงผู้ต้องหาพบว่าตนยังไม่ตาย จึงจะฆ่าทิ้งแต่ตนได้ยกมือไหว้ขอชีวิตไว้ และสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องดังกล่าวกับตำรวจ ซึ่งผู้ต้องหาเกิดความสงสาร จึงยังไม่ฆ่าตน แต่ได้นำไปกักขังไว้ที่ห้องพัก ก่อนที่จะหั่นศพน้องชาย ต่อมาได้พาตนออกไปพร้อมศพน้องชายออกไปจากที่พัก โดยนำไปทิ้งไว้ที่หมู่บ้านร้างย่านตลิ่งชัน

"น้องมินต์"พูดคุยได้ดี ผ่าตัดปลอดภัยคาดอีก2เดือนหายปกติ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 ต.ค. นพ.ไพรัตน์ เจาฏะเกษกรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญ ด้านศัลยกรรมกระดูก รพ.พระราม9 เปิดเผยถึงอาการของเด็กหญิงพิชยา จงงามวิลัย หรือน้องมินต์ เด็กหญิงที่รอดจาดเหตุสะเทือนขวัญ ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ฆ่าแม่และหั่นศพน้องชาย ว่า ขณะนี้น้องมินต์ได้รักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลพระราม9 ซึ่งสามารถพูดคุยได้เป็นอย่างดี จากการตรวจสอบมีบาดแผล 2 จุดที่บริเวณศอกซ้าย 2 แผล ทำให้ไม่สามารถงอศอกได้ และมีบาดแผลเป็นรอยถากที่ไหปลาร้าขวา 3 แผล ส่วนกระดูกไหปลาร้าหัก มีเศษโลหะฝังใน ซึ่งแพทย์ได้นำเข้าห้องผ่าตัดตั้งแต่เวลา 10.30 น. ทั้งนี้หลังการผ่าตัดคาดว่าแผลที่ไหปลาร้าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือนถึงจะหายเป็นปกติ ส่วนแผลที่ศอกใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์

น.พ.ไพรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นห่วงสุขภาพจิตใจของเด็ก ซึ่งทางโรงพยาบาลได้เตรียมจิตแพทย์ไว้เพื่อดูแลอาการของเด็กแล้ว และเห็นว่าไม่ควรให้เด็กย้ายโรงพยาบาล เพราะอาจทำให้แผลได้รับการกระทบกระเทือนได้ ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลยินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

เผยมือฆ่าหั่นศพ"เด็ก5ขวบ-แม่"สังกัดแก๊งยากูซ่าญี่ปุ่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 13 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดจับกุมได้นำตัวนายศิริพงศ์ กาญจนนิวิฐ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพ มาทำแผนรับสารภาพภายในรถแท็กซี่ ซึ่งนำมาจอดอยู่บริเวณหน้าสน. โดยนายศิริพงษ์ มีอาการนิ่งเฉย ไม่ได้มีอาการเคร่งเครียดแต่อย่างใด จากนั้นทางเจ้าหน้าที่นำปืนที่ใช้ก่อเหตุคือปืนขนาด .357 โดยมีตำรวจหญิงนั่งเบาะหลังทางด้านขวาซึ่งอยู่ข้างหลังคนขับ และนำตุ๊กตา 2 ตัว มาเป็นตัวแทนเด็ก โดยเด็กผู้ชายนั่งกลาง และเด็กผู้หญิงนั่งซ้าย จากนั้นผู้ต้องหาซึ่งนั่งอยู่บริเวณคนขับได้นำอาวุธปืนที่ซ่อนไว้ที่ใต้เบาะ นั่ง โดยใช้มือขวาจับปืน สอดปืนเข้าใต้แขนซ้าย เอี้ยวไปทางด้านหลังที่ผู้ตายนั่งอยู่ โดยไม่ให้ผู้ตายรู้ตัว ก่อนจะเหนี่ยวไก ไปจำนวน 7 นัด หลังจากนั้นนายศิริพงษ์ ก็เปลี่ยนลูกโม่อีกชุดก่อนจะเหนี่ยวไกอีก 7 นัด แต่กระสุนออกเพียง 4 นัด หลังจากนั้นก็ขับรถไปที่บ้านย่านบางบัวทอง ก่อนจะจัดการศพและนำไปทิ้ง

หลังจากทำแผนเสร็จทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปที่ทางด้านบนของ สน. โดยพล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ได้สอบปากคำผุ้ต้องหาเพิ่มเติมในประเด็นที่น่าสงสัย ขณะเดียวกันได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ไปทำการสอบปากคำแม่ของผู้ต้องหาที่ปฏิบัติ ธรรมอยู่ที่วัด ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญว่าจะให้การสอดคล้องกับผู้ต้องหาหรือไม่ และประเด็นทรัพย์สินของผู้ตายซึ่งยังหาไม่เจอและยืนยันว่าเป็นการจับคนร้าย ได้จริง ซึ่งมีนักข่าวช่อง 9 ซึ่งเป็นคนกลางได้ให้การเป็นพยานยืนยัน ส่วนเรื่องข่าวเรื่องผู้ต้องหาเป็นแก๊งยากูซ่านั้น ซึ่งไม่ทราบว่ามาจากไหนให้ไปถามคนที่ให้ข่าวเอง ทั้งนี้จากการสอบปากคำผู้ต้องหาได้ให้การให้การตรงกับน้องมินต์ถึง 90เปอร์เซ็น และขณะเดียวกันจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่สนามบินสุวรรณภูมิที่ผู้ตายลงจาก เครื่องบินจนกระทั่งขึ้นรถแท๊กซี่ เพื่อเป็นหลักฐานในคดี ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และจะพยายามสรุปสำนวนคดีโดยเร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสืบสวนในทางลับของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า จากรอยสักของผู้ต้องหาและการสืบสวนที่ผ่านมานั้นคาดว่าผู้ต้องหาเคยเป็น หนึ่งในอดีตแก็งยามามูจิ ซึ่งเป็นแก๊งยากูซ่าชื่อดังที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีการแพร่ขยายเข้ามาหากินในประเทศไทย มีพฤติกรรมเหี้ยมเกรียมคอยเรียกค่าคุ้มครองรีดไถ่ หรือ ค่าผ่านทาง กับบุคคลที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย โดยกลุ่มแก๊งยามามูจิ จะมีสัญลักษณ์ของกลุ่มแก๊งซึ่งเป็นการสักด้วยลวดลายที่ซับซ้อน ที่บริเวณลำตัวท่อนแขน

ตั้ง 3 ข้อหาหนักฆาตกร"ฆ่าหั่นศพ" เร่งสอบปม"ทรัพย์สิน"

พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวก่อนเข้าสอบปากคำนายศิริพงษ์ กาญจนวินิวิฐ ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพเด็กชายวัย 5 ขวบ ที่ สน.ตลิ่งชันว่า ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 3 ข้อหา ประกอบด้วย ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ซ่อนเร้นอำพรางศพ และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจะสอบปากคำนายศิริพงษ์เพิ่มเติมในประเด็นทรัพย์สินของผู้ตาย ที่อาจเป็นปมปัญหาทำให้นายศิริพงษ์ก่อเหตุฆ่าผู้ตายพร้อมกับบุตร และในช่วงบ่าย จะนำตัวนายศิริพงษ์ไปทำแผนประกอบรับคำสารภาพ รวม 14 จุด เริ่มต้นที่สนามบินสุวรรณภูมิไปถึงจุดที่นำศพไปทิ้ง

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่เตรียมสอบปากคำน้องมินท์ บุตรสาวผู้ตาย ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นน้องมินท์ให้การสอดคล้องกับผู้ต้องหาบางส่วน ต้องรอให้น้องมินท์มีสภาพร่างกายและจิตใจพร้อม จึงจะเริ่มสอบปากคำอีกครั้ง

ตร.เปรียบเทียบพยานหลักฐานคดีฆ่า2แม่ลูก ตรงกัน 90%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะผู้ดูแลการสอบสวนคดีฆ่าหั่นศพเด็กชายวัย 5 ขวบ ย่านตลิ่งชัน เข้าสอบปากคำ นายศิริพงษ์ กาญจนนิวิฐ ผู้ต้องหา ที่ สน.ตลิ่งชัน โดยเฉพาะในประเด็นทรัพย์สินของผู้ตายที่นำมาจากประเทศญี่ปุ่นจำนวนมากสูญหาย

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ส่วนจะมีผู้ร่วมก่อเหตุอื่นด้วยหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐาน นอกจากนั้นได้ส่งคำร้องให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งตั้งพนักงานสอบสวนชุดเฉพาะกิจขึ้นมาอีก 1 ชุด สำหรับดูแลคดีนี้โดยเฉพาะ เนื่องจากมีการก่อเหตุต่างกรรม ต่างวาระในหลายท้องที่ เมื่อเปรียบเทียบพยานหลักฐานกับคำให้การพบว่าตรงกันถึงร้อยละ 90 แต่ยังมีในบางประเด็นที่ต้องสอบเพิ่ม อาทิ การใช้กระสุนซ้อม รวมถึงเหตุการวินาทีลั่นไกสังหาร

ส่งจิตแพทย์เยียวยาจิตใจ"น้องมินท์"เห็นแม่-น้องถูกฆ่า หวั่นป่วยทางจิต

นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วันนี้ ได้มอบให้กรมสุขภาพจิตจัดเจ้าหน้าที่ไปดูแลสภาพจิตใจของน้องมิ้นท์ เด็กหญิงที่รอดจาดเหตุสะเทือนขวัญ ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ฆ่าแม่และหั่นศพน้องชาย โดยกำชับต้องดูแลเป็นพิเศษ เกรงว่าเด็กอาจเกิดปัญหาทางจิตได้ หากไม่ได้รับการเยียวยาจิตใจ

"ลุงโจ"เพื่อนแม่เหยื่อฆ่าหั่นศพ เชื่อปมฆ่าล้างหนี้

นายโจ เพื่อนของ นางสุนันท์ ศรีสุวรรณ ซึ่งถูกฆ่าแล้วนำศพไปทิ้งย่านลาดหลุมแก้ว และเป็นมารดาของ น้องโช เด็กชายที่ถูกฆ่าหั่นศพ เปิดเผยเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ว่า รู้จักกับผู้ตายนานแล้ว โดยผู้ตายเคยมีสามีอยู่ที่ จังหวัดชลบุรีจนมีลูกด้วยกันคือ น้องมินท์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บและอยากพบตน แต่ยังไม่มีโอกาสได้พบเนื่องจากตนเองอยู่ต่างจังหวัด ส่วนสามีคนที่สองของผู้ตายเป็นชาวญี่ปุ่น โดยผู้ตายได้เดินทางไปอยู่กับสามีที่ประเทศญี่ปุ่นและมีลูกด้วยกันคือน้องโช แต่ภายหลังผู้ตายทราบว่าสามีมีครอบครัวแล้วจึงพยายามตีตัวออกห่าง ทุกครั้งเมื่อเดินทางมาประเทศไทยก็จะนำลูกทั้ง 2 คนมาฝากให้ตนเองช่วยดูแล จึงสนิทสนมกับเด็กทั้งสองคน และเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาได้คุยกับผู้ตายครั้งสุดท้ายว่าเตรียมจะเดิน ทางกลับมาประเทศไทย กระทั่งมาทราบว่าผู้ตายถูกยิงเสียชีวิต

นายโจ กล่าวว่า ที่นายศิริพงษ์ กาญจนนิวิฐ ผู้ต้องหา อ้างว่าผู้ตายบีบบังคับให้ฆ่าสามีคนแรกนั้นไม่น่าเป็นไปได้ เนื่องจากผู้ตายเป็นคนใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น ใครมาพูดคุยว่าเดือนร้อนเรื่องเงินก็จะให้เงินไปโดยไม่เสียดาย ส่วนตัวคาดว่าอาจเป็นเรื่องหนี้สินที่นายศิริพงษ์ยืมมาจากผู้ตาย เพราะก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยบ่นให้ฟังว่านายศิริพงษ์เอาเงินไปหลายแสนถึงหลัก ล้าน จึงต้องการทวงเงินคืนและพยายามเร่งรัดให้จ่ายหนี้คืน ก็เป็นไปได้ว่านายศิริพงษ์ไม่มีเงินใช้หนี้จึงต้องฆ่าเพื่อล้างหนี้สิน

ผบช.น.ระบุต้องตรวจสภาพจิตใจ"มือฆ่าหั่นศพ"เด็ก 5 ขวบ

พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า นายศิริพงษ์ กาญจนนิวิฐ เป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าหญิงสาวที่พบศพย่านบางบัวทองและฆ่าหั่นศพเด็กชายวัย 5 ขวบจริง หลังนำตัวไปตรวจค้นที่บ้าน ได้พบหลักฐานเพิ่มเติมหลายอย่าง แต่ตำรวจยังติดใจมูลเหตุจูงใจ และประเด็นที่บอกว่าไม่ได้ทิ้งศพเด็กชายในบริเวณที่ถูกพบ ส่วนเด็กผู้หญิงที่รอดชีวิตนั้น ต้องการให้พักผ่อนก่อน จึงยังไม่ได้สอบปาก แต่สิ่งที่ต้องทำต่อคือ ตามหาทรัพย์สินที่หายไป

"ทั้งนี้ประเด็นก่อเหตุนั้น ส่วนตัวมองว่า ถ้าไม่ถูกกดดันใดๆ ก็อาจประสงค์ต่อทรัพย์สิน เพราะขณะเดินทางไปรับครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้ต้องหาก็เตรียมอาวุธปืนไปด้วย ซึ่งรายชื่อบุคคลเข้าประเทศ ตามคำให้การก็ตรงกัน" พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าว

พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวต่อว่า การตรวจสอบสภาพจิตเป็นขั้นตอนหนึ่งที่ต้องทำ ส่วนกรณีที่มีข่าวผู้ต้องหาถูกกดดันและดูถูกไม่กล้ายิงสามีชาวญี่ปุ่นของผู้ ตายนั้น ต้องตรวจสอบต่อไป แต่ดูจากพฤติกรรมเบื้องต้นเชื่อว่า ผู้ต้องหาดำเนินการเพียงคนเดียว เพราะเหยื่อเป็นผู้หญิงและเด็ก อย่างไรก็ตาม ประวัติอาชญากรรมเบื้องต้นไม่พบ มีอาชีพขับแท็กซี่ สำหรับร่องรอยที่คาดว่าเกิดจากการทรมาน พบว่าเป็นรอยช้ำ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเกิดก่อน หรือ หลังจากเสียชีวิตแล้ว ส่วนการเข้ามอบตัวกับสื่อนั้น ผู้ต้องหาต้องการความปลอดภัย

ด้านพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมตั้งคณะทำงานร่วมในคดีที่ฆ่าหั่นศพ ด.ช.โชว์ วัย 5 ปี และยิงแม่เด็กเสียชีวิต โดยได้มอบหมายให้ 3 พื้นที่ ร่วมดำเนินการสืบสวนสอบสวนในรูปแบบของคณะทำงาน ประกอบด้วย พื้นที่สน.ตลิ่งชัน ซึ่งเป็นพื้นที่พบศพ ด.ช.โชว์ พื้นที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว ที่พบศพ น.ส.สุนันท์ ศรีสุวรรณ และพื้นที่ สภ.บางบัวทอง ซึ่งเป็นบ้านของนายศิริพงษ์ สถานที่ชำแหละศพ ด.ช.โชว์

"สำหรับความคืบหน้าคดีในช่วงเช้า พนักงานสอบสวนเตรียมขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดตลิ่งชัน เพื่อใช้อำนาจจับกุมตามกฎหมาย ก่อนจะนำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในแต่ละพื้นที่เกิดเหตุ ขณะที่ตลอดคืนที่ผ่านมา นายศิริพงษ์ ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.ตลิ่งชัน ซึ่ง นายศิริพงษ์ มีอาการเครียด เจ้าหน้าที่ต้องคอยผลัดเปลี่ยนเวรยามดูแลเกรงว่า นายศิริพงษ์ จะคิดสั้น" พล.ต.อ.ปทีป กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เดินทางไปสอบปากคำนายศิริพงษ์ หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายศิริพงษ์ ไปชี้จุดที่ทิ้งชิ้นส่วนของ ด.ช.โชว์ และคนบ้านพักของนายศิริพงษ์ ที่หมู่บ้านเอื้ออาทร บางบัวทอง ซึ่งเป็นสถานที่ชำแหละศพ และได้ของกลาง อาทิ มีดหั่นศพ กระสุนปืน กระเป๋าเดินทางของผู้ตาย ขณะที่ผู้ต้องหายังคงพูดคุยได้ตามปกติ โดยมีสีหน้าเรียบเฉยซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายจับนายศิริพงษ์ ต่อศาลจังหวัดตลิ่งชันแล้ว และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล อย่างไรก็ตาม หากศาลอนุมัติหมายจับ เจ้าหน้าที่จะได้ควบคุมตัว นายศิริพงษ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ รวม 14 จุด โดยจุดแรกคือ สนามบินสุวรรณภูมิ

2 ความคิดเห็น:

  1. มันชั่วมากๆไอ้ชั่วไอ้สมองไข่ปลา

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ12 มกราคม 2553 เวลา 21:03

    กะแล้วว่าคนหน้าตาอย่างนี้ต้องนิสัยไม่ดี

    ตอบลบ