วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ค่าเงินบาทแปรปวน ต่างชาติยังส่งเงินเข้าลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง

ได้ยินข่าวมาจากหลายด้านแล้ว ว่านักลงทุนต่างชาติ หรือกิจการบริษัทที่มีความสนใจ ตั้งแต่จะมาลงทุนในประเทศไทย แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนใจ ยกเลิกในไทยและหันไปหาเวียดนามกันหมด....

วันนี้ตื่นเช้ามาเจอข่าวนี้
แบงก์ชาติโวย เงินนอก บุกถล่มไทย
จริงหรือเปล่าหว่า????....
ค่าเงินบาทแปรปวน ต่างชาติยังส่งเงินเข้าลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่องธปท. ระบุ ต่างชาติยังส่งเงินเข้ามาลงทุนตรงในไทยต่อเนื่อง แม้ศก.ซบ ไหลเข้าลงทุนในหุ้นกว่า 6 หมื่นล้าน ส่งผลบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ขณะที่ราคาทองที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ค่าบาทช่วงนี้ยิ่งผันผวน

เมื่อวัน ที่ 12 ต.ค. นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การเคลื่อนย้ายเงินทุนจากต่างประเทศ เข้ามาประเทศไทยยังคงเป็นการไหลเข้าต่อเนื่อง ขณะนี้ยังเห็นเงินลงทุนโดยตรง (FDI) ยังคงไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในอัตราที่ใกล้เคียงกับปีก่อน ไม่ได้ลดลง ไม่ว่าจะจากผลของการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หรือความไม่มั่นใจในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ขณะที่ในส่วนของตลาดหุ้น โดยพบว่าที่ผ่านมามีเงินไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยจนถึงขณะนี้ประมาณ 60,000 ล้านบาทเนื่องจากนักลงทุนเห็นว่าเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น ทำให้นักลงทุนมั่นใจที่เข้ามาในภูมิภาคนี้มากขึ้นนอกจากนี้ การส่งออกที่ลดลงน้อนกว่าการนำเข้า ส่งผลให้ประเทศไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุให้ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง

อย่าง ไรก็ตามธปท.ยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการในการดูแลเงินไหลเข้า เพื่อมาควบคุมหรือมาดูแลการไหลเข้าของเงินทุนในขณะนี้ และในส่วนของมาตรการในการปล่อยเงินออก ก็ได้ผ่อนคลายต่อเนื่อง และที่ผ่านมามีเงินในประเทศไหลไปลงทุนนอกในระดับหนึ่ง

"ธปท.ยังคง ติดตามและดูแลไม่ให้ค่าเงินบาทผันผวนเกินไป หรือแข็งค่าเร็วเกินไป อย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว ที่ผ่านมา ได้มีมาตรการเพื่อช่วยให้เงินทุนไหลออกไปลงทุนในต่าง ประเทศหลายมาตรการ ขณะที่ฝั่งของผู้ออมก็ได้ไปลงทุนใตรสารหนี้ต่างประเทศมากขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการดูแลเงินไหลเข้าอะไรในขณะนี้ โดยเฉาพอย่างยิ่ง ไม่ต้องใช้มาตรการกันสำรองเงินทุนระยะสั้น 30%(URR)เหมือนที่ผ่านมา เพราะขณะนี้การแข็งค่าของเงินบาท ไม่ได้มีการเก็งกำไร" ผู้ว่าการ ธปท. กล่าว

ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวด้วยว่า เงินบาทที่ผันผวนในช่วงนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับประเทศในภูมิภาค ไม่ได้แข็งค่าเพียงค่าบาทประเทศเดียว เนื่องจากเงินบาทผันผวนไปตามค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่านค่าลง นอกจากนี้ราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงนี้ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ค่าเงินเกิดความผันผวนด้วย เนื่องจากขณะนี้ทองคำถือว่าเป็นสินค้าทางการเงิน พอราคาเกิดการเปลี่ยนแปลงก็ทำให้เกิดความผันผวนด้วย

"ที่ผ่านมาไม่ ได้เป็นการส่งสัญญาณว่ามีการเก็งกำไร แต่ผู้ส่งออกและนำเข้าก็ไม่ควรคาดหมายว่าค่าเงินจะไปในทิศทางใด หากค่าเงินไม่เป็นไปตามคาด ก็จะกลายเป็นความเสี่ยง ดังนั้นควรจะมีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินล่วงหน้าไว้ที่ดีที่สุด แต่หากเงินบาทผันผวนจนเกินไปธปท.ก็พร้อมเข้าไปดูแล เพื่อไม่ให้กระทบการทำธุรกิจของผู้ส่งออก และผู้นำเข้า"ผู้ว่าการ ธปท. กล่าว

อืม... เศรษฐกิจไทยยังไม่แน่นอน และยังน่าลงทุนน้อยนัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น