เล่นแช็ตเกมออดิชั่น(Audition) แล้วถูกลอกกว่า 30 คน! แต่หยาดติดใจ!?

ก็เคยบอกเคยบ่นไปแล้ว ว่าคนไทยยังไม่มีความรู้เพียงพอต่อการใช้อินเตอร์เน็ต แล้วก็เป็นเรื่องจนได้....
บังเอิญไปเจออีกข่าวหนึ่งพร้อมๆ กัน ทั้งที่สองข่าวนี้คล้ายเรื่องเดียวกัน แต่ก็ขัดกัน?
ข่าวหนึ่งบอกถึงภัยของเกมออนไลน์ที่ผู้เล่นนั้นไม่ค่อยจะระวัง แล้วก็ถูกลอก มิหน่ำซ้ำ พ่อแม่ผู้ปกครองก็ไม่กล้าทำอะไรมากเพราะ "อายเค้า!?"(เมิงจะอายทำเหี้_อะไร!!!) และอีกข่าวหนึ่ง ดาราหญิงมาแนะนำให้เล่นเกมออนไลน์ตัวเดียวกันนั้นล่ะ เออ เจริญเลย..... :p

จากข่าว เตือนภัย! แช็ตเกม"ออดิชั่น" ลวงน.ร.สาว แฉเด็กหายกว่า 30 คนผู้ปกครองไม่กล้าแจ้งตร.

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม นายสำราญ แสงพระพาย อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.ไผ่ล้อม อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมภรรยา เข้าร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า อยากเตือนผู้ปกครองให้ระมัดระวังติดตามพฤติกรรมของลูกสาวที่กำลังเรียนอยู่ ชอบคบเพื่อนแล้วพากันเข้าไปเล่นตามร้านเกม เนื่องจากพบว่ามีเกมออนไลน์ชื่อ"ออดิชั่น"(Audition)เป็นเกมที่กลุ่มเด็กนักเรียนหญิง ทั้งระดับประถมและระดับมัธยมนิยมเล่นกันมาก ดูผิวเผินเหมือนฝึกทักษะการใช้แป้นกดเครื่องคอมพิวเตอร์ ควบคุมด้วยนิ้วในระบบสัมผัส บังคับให้ตัวละครเต้นตามจังหวะนิ้วมือที่กด โดยจะมีเสียงเพลงประกอบ ผู้เล่นสามารถใช้บังคับลีลาท่าเต้นของตัวละครได้ตามที่เครื่องกำหนด
"ระหว่าง เล่นมีการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ต จะมีผู้เล่นจากเครื่องอื่นสามารถลิงค์เชื่อมต่อเข้ามาเต้นเล่นด้วยได้ทีละ หลายคน และยังสามารถเปิดหน้าต่างเข้าแช็ตพูดคุยโต้ตอบกันได้ จึงกลายเป็นที่นิยมของกลุ่มนักเรียนทั้งชาย-หญิง ทำให้มีคนร้ายแฝงเข้ามาเล่นกับกลุ่มนักเรียนสาวๆ ที่หลงเชื่อ พูดคุยแล้วนัดไปพบกัน บางรายหนีไปกว่า 1 เดือนจึงจะกลับ มีหลายรายได้แจ้งความไว้ที่ สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา"นายสำราญกล่าว

นายสำราญกล่าวว่า บุตรสาวตน วัย 14 ปี เรียนอยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง หลงเข้าไปเล่นเกม"ออดิชั่น"(Audition)ถูก 2 หัวโจกเข้ามาแช็ตพูดคุยหลอกล่อนั่งรถไฟไปพบที่ จ.สมุทรสาคร แล้วให้ไปทำงานเป็นลูกจ้างตัดหัวปลาทะเลย่านมหาชัย ได้ค่าแรงวันละ 200 บาท ซึ่งลูกสาวถูกหลอกไปทำงานเกือบ 2 สัปดาห์ เงินค่าแรงก็ไม่ได้ โชคดีมีเพื่อนซึ่งถูกหลอกหนีรอดออกมาได้ มาบอก ตนจึงไปตามลูกสาวกลับมาได้ และร้องขอความช่วยเหลือไปยังมูลนิธิปวีณา หงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ส่งตัวลูกสาวไปตรวจสอบร่างกาย และติดตามกลุ่มวัยรุ่นหัวโจกมาดำเนินคดีแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ปกครองนักเรียนเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ภาชี 2 ราย ว่าบุตรสาวกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.2 และ ม.3 เล่นอินเตอร์เน็ตเกมอันตรายดังกล่าวแล้วถูกหลอกหายไปจากบ้าน

ผู้ปกครองรายหนึ่งเปิดเผยว่า มีเด็กนักเรียนในหมู่บ้านเข้าไปเล่นเกมและถูกหลอกไปแล้วกว่า 30 คน แต่ที่ไม่เป็นข่าว เพราะเด็กที่ถูกหลอกกลับมา จึงเกรงจะเป็นเรื่องอับอายต่อครอบครัว ทำให้กลุ่มคนร้ายได้ใจ อยากให้ตำรวจตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว

พ.ต.อ.อดุลย์ เม่นบางผึ้ง ผกก.สภ.ภาชี กล่าวว่า พบว่ามีเด็กออกจากบ้านไป 4 คน กลับมาแล้ว 2 คน ซึ่งผู้ปกครองกำลังติดต่อให้ลูกสาวกลับมา ทราบว่าไปทำงานอยู่ใน จ.สุมทรสาคร ตนให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบให้ชัดเจน ถ้าเป็นการล่อลวงไปจริง ถือว่าเป็นความผิด และที่มีกระแสข่าวว่ามีเด็กหายไปจากหมูบ้านกว่า 30 คนนั้น จะไปประสานกับทางกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง

และข่าวที่ขัดกันก็คือ
"หยาด" ติดใจออดิชั่น แดนซ์มันส์โดนใจจริงๆ

เมื่อได้ดาราสาวมาร่วมสนุกชวนมาแชท และแดนซ์กันแบบสดๆ กับชาวออดิชั่น ผ่านระบบสตรีมมิ่ง เป็นครั้งแรก เล่นเอาเซิร์ฟแทบล่ม...

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทเอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่นจำกัด ผู้ให้บริการเกมออดิชัน ได้จัดกิจกรรม Audition Is.. Everything ที่ได้เป็นครั้งแรก โดยได้ดาราสาวสุดเซ็กซี่และมากความสามารถ “หยาด” หยาดทิพย์ ราชปาล มาร่วมสนุกชวนมาแชท และแดนซ์กันแบบสดๆ กับชาวออดิชั่น ผ่านระบบสตรีมมิ่ง เป็นครั้งแรก ทำให้เอาเซิร์ฟเกมเกือบล่ม เพราะไม่ว่าสาวหยาดจะย้ายไปเล่นเซิร์ฟเวอร์ไหน น้องๆ ชาวออดิชั่น ก็ตามไปแชทและแดนซ์ด้วยอย่างถล่มทลาย

นางสาวหยาดทิพย์ ราชปาล นักแสดงและนางแบบชื่อดัง กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นดี เหมือนโดนนักข่าวเยอะๆ มาสัมภาษณ์พร้อมกัน ได้แชทคุยสนุกๆ กับน้องๆ ในเกมและแดนซ์กับน้องๆ ทั้งเชิร์ฟเวอร์ หยาดเล่นไม่เก่ง แต่ขอคอนเฟิร์มว่ามันส์มากๆ แดนซ์ไปก็โดนแซวไป น้องๆ ก็ส่งกำลังใจและเข้ามาเต้นกันเยอะมาก สนุกจริง ๆ ค่ะ แต่ละคนเต้นกันเก่งและออกสเต็ปมันส์ๆ แต่งตัวแฟชั่นโดนๆ เป็นสไตล์ของตัวเองมากๆ

ดาราสาว กล่าวต่อว่า เกมออดิชั่นถือเป็นเกมแดนซ์ออนไลน์ที่โดนใจตัวเองมาก เพราะปกติเป็นคนที่ชอบเต้นชอบเพลงแดนซ์อยู่แล้ว พอได้เล่นเกมออดิชั่นเลยกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ของหยาดได้แบบไม่มี ข้อสงสัย ถ้ามีเวลาว่างจากการแสดงและเรียนก็จะเล่นเกม และฟังเพลงพร้อมได้เต้นมันส์ แชทขำๆ ซ้อมสเต็ปไปกับจังหวะดนตรีเป็นการพักผ่อนคลายเครียดไปในตัว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถแชท และแดนซ์กับเพื่อนๆ ได้ทุกเวลา

นาง สาวหยาดทิพย์ กล่าวด้วยว่า เล่นเกมนี้ยิ่งได้ฝึกซ้อมท่าเต้น ก่อนจะแดนซ์กับเพื่อนจริงๆ จำไปหลายจังหวะ บอกตามตรงสนุกมากเลย บางทีเต้นหลุดบ้างก็โดนคนที่ออนไลน์อยู่แซว ให้รู้สึกขำๆ กันไป อย่างไรก็ตามถ้ามีเวลาว่าง คงต้องแอบแวะซ้อมสเต็ปแดนซ์ในออดิชั่นแน่นอน ถ้าหากเพื่อนๆ ว่างอยากผ่อนคลายแบบหยาด ก็เข้ามาแชท และเต้นจังหวะโดนๆ ได้เหมือนหยาด

แหมม.... มันน่าขัดใจขัดจิตซะจริงๆๆ

ฝ่ายค้านญี่ปุ่น ชนะเลือกตั้ง คะแนนถล่มทลาย!!!

อาโซะถอดใจ ลาออก ทำแอลดีพีพ่าย
นายกฯของญี่ปุ่น พร้อมลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย หลังพรรคพ่ายแพ้การเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย

นาย ทาโร อาโซะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคว่า เขาจะต้องรับผิดชอบกับผลการเลือกตั้งที่ออกมา เขาจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค และจะมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่โดยเร็ว เพื่อที่พรรคจะได้เร่งทำงานสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ นายฮิโรยูกิ โฮซาดะ เลขาธิการพรรคแอลดีพี บอกว่าเขาและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคอีก 2 คน ก็เตรียมที่จะยื่นใบลาออกจากตำแหน่งต่อนายอาโซะเช่นกัน

ทั้งนี้ ผลเอ็กซิตโพลทั้งจากสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค และสถานีโทรทัศน์อาซาฮี ชี้ว่าพรรคแอลดีพีของนายอาโซะ จะได้ที่นั่งในรัฐสภาเพียง 100-130 ที่นั่งเท่านั้น ขณะที่พรรคประชาธิปไตยญี่ปุ่น หรือดีพีเจ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน จะได้ไปที่นั่งถึง 315 ที่นั่ง.
จาก http://www.thairath.co.th/content/oversea/29790

ข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ฝ่ายค้านญี่ปุ่นชนะเลือกตั้ง มุ่งฟื้นศก.-สู่การเมืองใหม่
เอเจนซี/เอเอฟพี – ฝ่ายค้านญี่ปุ่นได้ชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ในการเลือกตั้งสภาล่างวานนี้ (30) เมื่อบรรดาผู้ออกเสียงพากันหมางเมินหันหลังให้กับ “ลิเบอรัล เดโมเครติก ปาร์ตี้” (แอลดีพี) พรรคแนวทางอนุรักษนิยมซึ่งปกครองประเทศแทบจะต่อเนื่องตลอดเวลากว่าครึ่ง ศตวรรษ แล้วเทคะแนนแบบถล่มทลายให้ “เดโมเครติก ปาร์ตี้ ออฟ แจแปน” (ดีพีเจ) พรรคหัวกลาง-ซ้ายซึ่งไม่เคยเป็นรัฐบาลมาก่อนเลย เพื่อทำหน้าที่ฟื้นฟูเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่ ตลอดจนปรับเปลี่ยนนโยบายทางด้านการเมือง, การต่างประเทศ, และสังคม

ดีพีเจคว้าชัยชนะอันงดงามมาได้ ด้วยการให้คำมั่นสัญญาที่จะเน้นหนักการใช้จ่ายงบประมาณซึ่งเอื้อประโยชน์ถึง ตัวผู้บริโภค, ตัดลดการตั้งงบประมาณที่สิ้นเปลืองไร้ประสิทธิภาพ, และลดทอนอำนาจของพวกข้าราชการ ทว่าดีพีเจก็จะต้องเคลื่อนไหวดำเนินการให้เห็นผลรวดเร็วด้วย เพื่อรักษาแรงสนับสนุนของผู้ออกเสียง ซึ่งเต็มไปด้วยความกังวลเรื่องอัตราการว่างงานพุ่งขึ้นสูงสุดเป็น ประวัติการณ์ และเรื่องสังคมกำลังกลายเป็นสังคมคนชราอย่างรวดเร็วที่จะต้องมีต้นทุนค่าใช้ จ่ายด้านสวัสดิการสังคมอย่างมหาศาล

ยูกิโอะ ฮาโตยามะ ผู้นำพรรคดีพีเจก็ดูจะตระหนักเรื่องนี้เป็นอย่างดี โดยเขาพูดระหว่างการแถลงข่าวถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ว่า “ประชาชนกำลังโกรธกริ้วการเมืองในปัจจุบันและคณะรัฐบาลผสมในเวลานี้ เราตระหนักเป็นอย่างดีถึงความรู้สึกอันใหญ่หลวงของประชาชนที่ต้องการให้เกิด การเปลี่ยนแปลงในชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา และเราก็ต่อสู้ในการเลือกตั้งคราวนี้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคณะรัฐบาล”

ตามการคาดการณ์ของสื่อหลายสำนักภายหลังการลงคะแนนเสร็จสิ้นลง แสดงให้เห็นว่าดีพีเจกำลังจะได้ชัยชนะแบบถล่มทลาย โดยที่เป็นไปได้ว่าจะได้เสียงถึงสองในสาม นั่นคือ 320 ที่นั่ง จากสภาล่างทั้งสภาที่มี 480 ที่นั่ง การพยากรณ์เช่นนี้ก็สอดคล้องกับคำทำนายก่อนหน้านี้ที่ว่า พรรคแอลดีพีของนายกรัฐมนตรีทาโร อาโซะ จะปราชัยแบบย่อยยับ

โยชิฮิเดะ ซูกะ รองหัวหน้านักยุทธศาสตร์วางแผนรณรงค์หาเสียงของแอลดีพี ได้ออกมาแถลงข่าวยอมรับว่า พรรคซึ่งปกครองประเทศอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นมาในปี 1955 โดยมียกเว้นถูกฝ่ายค้านเข้าแทรกก็เพียงแค่ประมาณ 10 เดือนเท่านั้น กำลังจะประสบ “ความปราชัยครั้งประวัติศาสตร์”

การพ่ายแพ้ของแอลดีพียังหมายถึงการแตกกระจัดกระจายของหุ้นส่วน 3 ฝ่าย อันได้แก่ แอลดีพี, ธุรกิจใหญ่, และข้าราชการ โดยหุ้นส่วนนี่เองที่เปลี่ยนแปลงญี่ปุ่นให้เข้าสู่ฐานะการเป็นมหาอำนาจทาง เศรษฐกิจ ภายหลังพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง ทว่ายุทธศาสตร์เช่นนี้ก็ถึงคราวเผชิญปัญหาหนักทำท่าไปไม่รอดเรื่อยมา นับแต่ที่ “ฟองสบู่” เศรษฐกิจของญี่ปุ่นแตกระเบิดออกเมื่อปลายทศวรรษ 1980 และจากนั้นการเจริญเติบโตของแดนอาทิตย์อุทัยก็อยู่ในภาวะชะงักงันโดยตลอด

เจอร์รี เคอร์ติส ผู้เชี่ยวชาญด้านญี่ปุ่น ณ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ของสหรัฐฯ ชี้ว่า สิ่งที่กำลังบังเกิดขึ้นในเวลานี้ คือ “การสิ้นสุดของระบบการเมืองหลังสงครามโลกในญี่ปุ่น” และ “มันเป็นเครื่องหมายแสดงถึงจุดจบของยุคสมัยอันยาวนานยุคหนึ่ง และก็เป็นการเริ่มต้นของอีกยุคสมัยหนึ่งซึ่งยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน”

พวกตลาดการเงินได้ตั้งความหวังมาพักใหญ่แล้วว่า ชัยชนะอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งสมาชิกสภาล่างของดีพีเจ จะเป็นการแก้ไขภาวะติดขัดอึดอัดทางการเมือง เพราะดีพีเจและพรรคพันธมิตรอื่นๆ รวมกันก็สามารถครองเสียงข้างมากในสภาสูงได้อยู่แล้ว โดยที่สภาสูงแม้มีอำนาจน้อยกว่าสภาล่างมาก แต่ก็สามารถยับยั้งการออกกฎหมายหรือการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำแหน่งสำคัญๆ ได้ อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลชุดใหม่มีการเพิ่มการใช้จ่ายมากมายตามที่ให้สัญญาไว้ตอนหาเสียง ก็อาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจ และอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้รัฐบาลอาจจะเพิ่มขึ้น ซึ่งก็เท่ากับอัตราดอกเบี้ยระยะยาวขยับสูงขึ้นไปนั่นเอง

ผลเอ็กซิตโพลที่พวกสื่อมวลชนประกาศออกมาภายหลังปิดหีบลงคะแนน แสดงให้เห็นว่าแอลดีพีจะชนะได้ที่นั่งเพียงแค่เกิน 100 ที่นั่งเล็กน้อย จากที่เคยมีอยู่ถึง 300 ที่นั่ง ส่วนพรรคนิว โคเมอิโตะ ปาร์ตี้ ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล คาดหมายว่าจะได้ราวๆ 20 ที่นั่ง

ขณะที่ดีพีเจนั้น ทีวีอาซาฮีทำนายว่าจะได้ 315 ที่นั่ง ทีบีเอสพยากรณ์ว่าจะชนะ 321 ที่นั่ง และ เอ็นเอสเคคาดหมายว่าจะได้ระหว่าง 298 ถึง 329 ที่นั่ง

ในการเลือกตั้งทั่วไปคราวก่อนเมื่อปี 2005 แอลดีพีได้รับชนะมโหฬาร เนื่องจากนายกรัฐมนตรีจุนอิชิโร โคอิซูมิ ผู้มากเสน่ห์ดึงดูดใจผู้ออกเสียง ให้สัญญาที่จะดำเนินการปฏิรูป ทว่าแรงสนับสนุนดังกล่าวได้พังครืนลงไป หลังจากแอลดีพีเกิดเรื่องอื้อฉาวไม่ได้หยุดหย่อน, มีการเปลี่ยนนโยบายกลับไปกลับมา, และถูกมองว่าไร้ความสามารถในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประเทศที่ประชากรกำลังมีอายุเพิ่มสูงขึ้นทุกที

อย่างไรก็ตาม แรงหนุนหลังพรรคดีพีเจก็ใช่ว่าจะแข็งขันหนักแน่นอะไรนัก ผู้ออกเสียงดูจะอยู่ในอาการสุดทนกับแอลดีพี จนต้องการทดลอง “ของใหม่” แม้จะรู้สึกไม่มั่นใจเท่าใดนักว่าดีพีเจจะแก้ปัญหาต่างๆ ของประเทศได้ดีแน่ๆ

“มันจะต้องเป็นปัญหาหนักหน่วงทีเดียวสำหรับดีพีเจที่จะจัดสรรเงินทอง ไปในเรื่องต่างๆ ให้ถูกต้องเหมาะสม แต่ผมคิดว่าถึงยังไงเราก็ควรต้องให้โอกาสพวกเขาสักครั้ง” ยาสุฮิโร คุมาซาวะ เจ้าของร้านอาหารวัย 38 ปีให้ความเห็น “ถ้ามันไม่ได้ผล เราก็ยังสามารถเลือกแอลดีพีกลับมาในอีก 4 ปีข้างหน้า”

เช่นเดียวกับ คาซุยะ สึดะ แพทย์เกษียณอายุไว้ 78 ปีในกรุงโตเกียวที่ไปโหวตให้ดีพีเจ ซึ่งกล่าวว่า “ผมไม่ชอบสิ่งต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ในประเทศของเรา สิ่งต่างๆ จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเสียที”

ดีพีเจให้สัญญาที่จะปรับเปลี่ยนงบประมาณการใช้จ่าย ให้หันมาเน้นช่วยเหลือการเลี้ยงดูบุตรของครอบครัวต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีลูก รวมทั้งให้ความเหลือแก่เกษตรกร ขณะเดียวกันก็จะดึงอำนาจควบคุมกำหนดนโยบายต่างๆ ออกมาจากมือของพวกข้าราชการ ซึ่งทางพรรคประณามว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ญี่ปุ่นล้มเหลวในการแก้ไขปัญหา ต่างๆ เป็นต้นว่า ระบบบำนาญที่กำลังเกิดช่องโหว่มากมาย

อย่างไรก็ดี โนริฮิโกะ นาริตะ ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยสุรุกาดาอิ ซึ่งอยู่ใกล้กรุงโตเกียว ทักท้วงว่า ในขณะที่ดีพีเจพูดว่าพวกเขาจะหลีกหนีไม่ให้ข้าราชการเข้าครอบงำการเมือง แต่พวกเขาก็จะต้องมีทักษะความชำนาญในการใช้ข้าราชการเพื่อปฏิบัติให้เป็นไป ตามนโยบายของพวกเขาด้วย

ดีพีเจยังประกาศว่าต้องการปรับนโยบายการต่างประเทศ ซึ่งจะมีความเป็นอิสระมากขึ้น ขึ้นต่อพึ่งพิงสหรัฐฯน้อยลง ขณะที่จะสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับประเทศอื่นๆ ในเอเชีย

เอ็กซิตโพลชี้ พรรคฝ่ายค้านญี่ปุ่นชนะเลือกตั้งถล่มทลาย (อัพเดต)
ฝ่ายค้านญี่ปุ่น ชนะเลือกตั้ง คะแนนถล่มทลาย

หะ!!

คลิปวิดีโอรวมภาพชุดว่ายน้ำของ AKB48 (Akihabara48)

เห็นคนญี่ปุ่นเค้าชอบกันก็เลยเอามาให้ดู ที่จริงใน Youtube ไม่ได้อนุญาติให้แปะคลิปหรอก.... แต่เราก็เอามาลงจนได้....(อย่างเอะเสียงดังไป เดี๋ยวหาเรื่องให้ซวยกันอีก!!!!)
site : AKB48 SKE48 Thailand Fanclub www.akb48club.com(ในเว็บไซต์แฟนคลับมีรูปชุดว่ายน้ำด้วย!!!! เพิ่งจะรู้!!!)
วิกิพีเดีย AKB48

Akihabara48 หรือ AKB48 เป็นวงไอดอลของญี่ปุ่นที่ Akimoto Yasushi เป็นคนก่อตั้งขึ้นมา , AKB48 ในตอนเริ่มแรกมีแค่ 20 คน จนถึงปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 53 คน โดยที่แบ่งออกเป็น 3 ทีม ; Team A, Team K และ Team B

AKB48 มีโรงละครเป็นของตัวเองในย่าน อะกิฮะบะระ ในกรุงโตเกียว และจะมีการแสดงทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์, โดยราคาบัตรค่าเข้าชมนั้นจะแบ่งเป็น ผู้ชาย 2,000เยน ผู้หญิงและเด็ก 1,000เยน

AKB48 ได้ออกผลงานมากมายกับค่าย DefSTAR Records มีทั้ง Single, DVD, Concert และ Photobook ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2007 ก็ได้ออกอัลบัมถึง 6 อัลบัมในวันเดียวกัน และใน 6 อัลบัมนี้เป็นเพลงที่มีในแสดงใน Akihabara Theater ของTeam A และ Team K โดยแบ่งเป็น 3 Stage ของแต่ละทีม และในวันที่ 21 มีนาคม 2007 ยังออก DVD ที่ถ่ายจากการแสดงใน Akihabara Theater อีก 5 ชุดด้วยกัน แต่ไม่มี Team K 3rd Stage ทั้งหมดนี้จะมีวางขายในรูปแบบของ Starter Kit หรือพูดให้เข้าใจกันก็คือบ็อคเซทนั่นเอง

และในตอนนี้ AKB48 ได้มี Sub Group 2 กลุ่มด้วยกัน, โดยที่กลุ่มแรกมีชื่อว่า Honegumi from AKB48 และล่าสุดคือ ICE from AKB48 กลุ่มนี้จะพิเศษกว่าตรงที่ว่าสมาชิกทั้ง 5 ของกลุ่มนี้ได้พากษ์เสียงตัวละครในการ์ตูนแอนิเมชันเรื่อง ICE และยังได้ร้องเพลงประกอบแอนิเมชันเรื่องนี้อีกด้วย และล่าสุด(มีนาคม 2007)ก็ได้เกิด Sub Group ขึ้นมาอีก 1 กลุ่ม ชื่อว่า CANYON FRIENDS from AKB48 ซื้อมีสมาชิกอีก 5 คนของ AKB48 มีพากษ์เสียงตัวละครในการ์ตูนซีรีส์เรื่อง เคนย่อนชินจัง และร้องเพลงประกอบอีกด้วย

http://th.wikipedia.org/wiki/AKB48








AKB48「水着サプライズ」PHOTO MOVIE Ⅰ


AKB48「水着サプライズ」PHOTO MOVIE Ⅱ

29 สิงหาคม ไมเคิล แจ็กสัน(Michael Jackson)

เมื่อวาน(29 สิงหาคม )เป็นวันเกิดของ ไมเคิล แจ็กสัน(Michael Jackson) แต่เราก็พลาดที่จะนำเรื่องของเขามาลงเมื่อวาน เพราะยุ่งๆ วุ่นๆ อยุ่กับเรื่องอื่นๆ เพิ่งจะสังเกตเห็นโลโก้ของกูเกิล(Google)เมื่อคืนนี้เอง

ก็เลยเอามาลงซะหน่อย ข้อมูลจาก wiki
ไมเคิล แจ็กสัน(Michael Jackson)

ไมเคิล แจ็กสัน (อังกฤษ: Michael Jackson) (29 สิงหาคม ค.ศ. 1958 – 25 มิถุนายน ค.ศ. 2009) มีชื่อเต็มว่า ไมเคิล โจเซฟ แจ็กสัน (อังกฤษ: Michael Joseph Jackson) ได้รับการขนานนามว่าเป็น ราชาเพลงป็อป (King of Pop)^[3]

เขาเป็นลูกคนที่ 7 ของครอบครัวแจ็กสัน ปรากฏตัวครั้งแรกในระดับอาชีพด้านดนตรีตั้งแต่อายุ 11 ปี โดยเป็นหนึ่งในสมาชิกวงเดอะแจ็กสันไฟฟ์ ในปี 1969 เขาเริ่มมีผลงานเดี่ยวในปี 1971 ขณะที่ยังคงเป็นสมาชิกของวงอยู่ ในปี 1982 มีผลงานอัลบั้มที่ชื่อ Thriller ซึ่งถือเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดตลอดกาล^[4] และสี่อัลบั้มเดี่ยวที่เหลือก็ยังถือว่าเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดอัลบั้มหนึ่ง อันประกอบด้วยชุด Off the Wall (1979), Bad (1987), Dangerous (1991) และ HIStory (1995)

ต้นคริสต์ทศวรรษ 1980 เขาเริ่มมีความโดดเด่นในวงการเพลงป็อป และถือเป็นชาวแอฟริกัน-อเมริกัน คนแรกที่มีแฟนเพลงมากมายผ่านทางช่องเอ็มทีวี ความนิยมของเขามาจากการออกอากาศมิวสิกวิดีโอทางช่องเอ็มทีวี อย่างเช่นเพลง "Beat It", "Billie Jean" และ "Thriller— เพลงนี้ได้รับเอ่ยถึงว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบมิวสิกวิดีโอจากอุปกรณ์การ ประชาสัมพันธ์ไปเป็นรูปแบบของศิลปะ— มิวสิกวิดีโอเหล่านี้ได้ช่วยให้ช่องที่เพิ่งเปิดใหม่นี้มีชื่อเสียงเพิ่ม ขึ้น วิดีโอเพลง "Black or White" และ "Scream" ก็ยังคงเปิดบ่อยทางช่องเอ็มทีวีในคริสต์ทศวรรษ 1990 ด้วย ลีลาบนเวทีของแจ็กสันและมิวสิกวิดีโอ แจ็กสันสร้างความโด่งดังกับท่าเต้นซับซ้อนโดยใช้ร่างกายมากมายหลาย ๆ ท่า อย่างเช่นท่าเต้นหุ่นยนต์และท่าเต้นมูนวอล์ก ส่วนเอกลักษณ์ด้านดนตรีและเสียงร้องของเขายังเป็นอิทธิพลให้กับศิลปินแนวฮิปฮอป ป็อป และอาร์แอนด์บี ให้อีกหลายคน อิทธิพลเพลงของเขามีแพร่กระจายไปสู่คนหลายรุ่น

แจ็กสันหาเงินหลายล้านดอลลาร์เพื่อมูลนิธิการกุศลของเขา มีซิงเกิ้ลการ กุศลมากมายที่สนับสนุนให้กับ 39 องค์กร ชีวิตส่วนตัวของเขามักปรากฏตัวโดยการปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าและพฤติกรรมให้คน อื่นจำไม่ได้ แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ทำลายภาพลักษณ์ที่ดีของเขาด้วยเช่นกัน เขายังถูกข้อกล่าวหาลวนลามทางเพศเด็กในปี 1993 แต่ก็ปิดลงโดยเขาไม่มีความผิดเนื่องจากมีหลักฐานไม่เพียงพอ แจ็กสันมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพตั้งแต่ต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 และยังมีข้อมูลรายงานขัดแย้งในเรื่องฐานะการเงินของเขาตั้งแต่ปลายคริสต์ ทศวรรษ 1990 แจ็กสันแต่งงานมาแล้วสองครั้ง มีลูกสามคน ต่อมาในปี 2005 เขามีข้อพิพาทอีกครั้งเรื่องล่วงละเมิดทางเพศและอีกหลายคดี แต่เขาก็ไม่มีความผิด (ซึ่งในภายหลังคู่กรณีหลายรายได้ออกมายอมรับว่า แจ็กสัน ไม่ได้กระทำ และที่กล่าวหา เพราะเป็นเด็ก และถูกผู้ปกครองบังคับ โดยหวังที่จะได้รับเงินค่าเสียหาย)

เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่ศิลปินที่มีชื่ออยู่ใน ร็อกแอนด์โรลฮอลออฟเฟม ถึงสองครั้ง ผลงานของเขาประสบความสำเร็จได้รับสถิติหลายครั้งจากกินเนสบุ๊ค รวมถึงในหัวข้อ เป็นหนึ่งใน"ศิลปินบันเทิงที่ประสบความสำเร็จที่สุดตลอดกาล" เขาได้รับรางวัลแกรมมี่ 13 ครั้ง มี 13 ซิงเกิ้ลที่ขึ้นอันดับ 1 ในฐานะนักร้องเดี่ยว และมียอดขายรวมกว่า 750 ล้านชุดทั่วโลก^[5] เขาถือเป็นส่วนสำคัญในวัฒนธรรมเพลงป็อปมากว่า 4 ทศวรรษ ไมเคิล แจ็กสันเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 2009 อายุได้ 50 ปี^[6]

จาก วิกิพีเดีย

ARiP.co.th ลงข่าวของ [NetWalker]แล้ว (เน็ตบุ๊ก+สมาร์ทโฟนบนฝ่ามือ)

เพิ่งจะไปเห็นข่าวของ [NetWalker] ที่ ARiP.co.th เมื่อกี้นี้เอง แต่ของโทษ เรารีวิวไปเสร็จเรียบร้อยแล้วล่ะ :p
และก็ไปเจอ คลิปสาธิตการใช้งานด้วย เลยเอามาให้ดูกันบ้าง
Sharp releases next-generation mobile Internet tool NetWalker : DigInfo


Sharp Netwalker MID with 1024x600 touchscreen, Linux Ubuntu 9.04


จากข่าว ARiP.co.th - NetWalker เน็ตบุ๊ก+สมาร์ทโฟนบนฝ่ามือ
รายงานข่าวล่าสุด ชาร์ป คอร์ป (Sharp Corp) บริษัทผู้ผลิตเครื่องไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำจากญี่ปุ่นมีแผนที่จะเปิดตัว โมบายพีซีขนาดเล็กเท่าหนังสือเล่ม สามารถเปิดขึ้นทำงานได้อย่างรวดเร็ว พร้อมระบบหน้าจอสัมผัส และคีย์บอร์ด โดยเจาะตลาดผู้บริโภคที่ต้องการอุปกรณ์โมบายที่อยู่ระหว่างสมาร์ทโฟน และเน็ตบุ๊ก

ในขณะที่ไอโฟน (iPhone) จะมาพร้อมกับฟังก์ชันของคอมพิวเตอร์มากมายในรูปแบบของมือถือแฟชั่น ส่วนเน็ตบุ๊กก็จะมีขนาดที่เล็กกว่า และถูกกว่าโน้ตบุ๊ก โดยได้รับการออกแบบให้เหมาะสำหรับการใช้งานง่ายๆ ทั่วไปอย่างเช่น ท่องเว็บ และอีเมล์ ซึ่งอุปกรณ์ทั้งสองได้รับความสนใจจากทั่วโลกในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยจะสู้ ดีนัก

"จริงอยู่ที่คุณสามารถนำมือถือไปใช้ที่ไหนกับคุณก็ได้ และมันก็เปิดพร้อมใช้งานตลอดเวลา (Always on) แต่คุณก็จะต้องทนกับหน้าจอที่เล็กเกินไป ในขณะที่โน้ตบุ๊กพีซีมีหน้าจอที่ใหญ่ และคีย์บอร์ดขนาดมาตรฐาน แต่อายุการใช้งานแบตเตอรี่ก็สั้น และใช้เวลาพอสมควรกว่าจะเครื่องจะเปิดขึ้นมาพร้อมใช้งาน" มาซาฟูมิ มันสึโมโต้ รองประธานฝ่ายบริหารของชาร์ป กล่าว "ด้วยเหตุนี้ เราจึงขอแนะนำอุปกรณ์โมบายที่จะทำให้คุณสามารถติดตัวไปใช้งานได้ทุกที และมาพร้อมกับฟังก์ชันสำคัญๆ ของโน้ตบุ๊ก"

NetWalker ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Ubuntu 9.04 หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดของการแสดงผล 1024x600 (WSVGA) โพรเซสเซอร์ที่ใช้เป็น Frescale 800MHz และหน่วยความจำ 512MB สตอเรจเป็น SSD ความจุ 4GB สามารถเพิ่มเติมการ์ดหน่วยความจำ microSDHC น้ำหนักตัวเครื่องแค่ 409 กรัม และใช้งานต่อเนื่องได้นานๅน 10 ชั่วโมง และด้วยความที่มันออกแบบให้ทำงานด้วย Ubuntu OS ซึ่งชาร์ปอ้างว่า มันสามารถบูทให้พร้อมทำงานได้ภายใน 3 วินาทีเท่านั้น ทำให้ผู้ใช้สามารถเปิดเครื่อง เพื่อตรวจสอบอีเมล์ และใช้แอพฯอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถเชื่อมต่อไร้สาย 802.11 b/g ชาร์ปวางแผนที่จะเปิดตัว NetWalker เพื่อวางจำหน่ายในญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนกันยายน สนนราคาอยู่ที่ 45,000 เยน หรือประมาณ 17,500 บาท...
จาก http://www.arip.co.th/news.php?id=409839

บทความที่เกี่ยวข้อง
รีวิว(Review):เครื่องมือพกพา Sharp(ชาร์ป) [NetWalker PC-Z1] (Ubuntu)
Sharp(ชาร์ป) ปล่อย [NetWalker] ใช้ Ubuntu ขนาดพกพา A6!

คนไทยเกินล้านใช้ Facebook จาก สถิติจากเว็บไซต์ CheckFacebook

ก็ทั้งๆ ที่คนใช้ Facebook ในไทยเกินล้านไปแล้ว(ไทยประมาณ 1,077,140 แยะว่าในญี่ปุ่นอีกแค่ 639,540 อย่างว่า คนไทยยังว่างกันเยอะ :p) แต่ไอ้เราเองยังไม่ได้เริ่มอะไรกับมันเลย คิดอยู่ตั้งเมื่อสองสามอาทิตย์ก่อนแล้ว ว่าจะลองศึกษาเกี่ยวกับ Facebook เพิ่มอีกซักนิดแล้วค่อยเริ่มทำ แต่เท่าที่คุยอยู่กับเพื่อนว่าจะทำFacebook

นักเลง:"ว่าจะทำ facebook ดูบ้าง"
เพื่อน:"เหรอๆๆ มีหรือยังล่ะ"
นักเลง:"ไว้ทำตอนที่มีเวลาหน่อย"

วันต่อมา...
นักเลง:"กำลังคิดจะทำ facebook "
เพื่อน:"เออดี เมื่อไหร่งะ?"
นักเลง:"เมื่อตอนที่มีเวลา"
เพื่อน:"- -+"

และวันต่อๆมา...
นักเลง:"กำลังคิดจะทำ facebook กะเค้ามั่ง"
เพื่อน:"เมื่อไหร่ล่ะยะ! -*-'"
นักเลง:"เมื่อตอนที่มีเวลา..."
เพื่อน:"เออ ตลอดแหละ"

จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้เริ่มอะไรเลย..... จนไปเจอข่าวใน blognone.com
คนใช้ Facebook ในไทยเกิน 1 ล้านคนแล้ว


สถิติจากเว็บไซต์ CheckFacebook บอกว่าตอนนี้ประเทศไทยมีผู้ใช้ Facebook เกิน 1 ล้านคนไปเรียบร้อยแล้วครับ

สถิติอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่

• ผู้หญิงใช้มากกว่าผู้ชาย ผู้หญิง 56.8% ประมาณ 6 แสนคน ผมคงไม่ต้องแปลผลให้ว่าหมายถึงอะไรนะ
• คนใช้ส่วนมากอยู่ระหว่าง 18-34 ปี
• ประเทศไทยติดอันดับประเทศที่คนใช้ Facebook เพิ่มมากขึ้นเร็วที่สุดในรอบ 1 สัปดาห์ อยู่อันดับ 5 โต 5.94% หรือมีคนใช้เพิ่มขึ้น 60,000 คนในสัปดาห์ที่ผ่านมา
• ประเทศเพื่อนบ้าน: มาเลเซีย 2.5 ล้าน, อินโดนีเซีย 8.3 ล้าน, ฟิลิปปินส์ 4.5 ล้าน, สิงคโปร์ 1.5 ล้าน

ผมไม่มีตัวเลขของ Hi5 มาเทียบ เลยไม่สามารถดูได้ว่าตัวเลขผู้ใช้ social network ของไทยจริงๆ มีสักเท่าไร

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้ Facebook แตะหลัก 250 ล้าน ถ้านับเป็นประเทศก็ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกครับ ตามหลังอันดับ 3 สหรัฐอเมริกาที่มีประชากรทั้งหมดประมาณ 300 ล้านคน

เข้าว่ามาเงี้ย....
มีใครจะแนะ และช่วยกระตุ้นไอ้คนนี้ให้เริ่ม facebook ซะที อยากทำนะ ไม่ใช่ไม่อยาก.....

โอ้ว!มันน่า(มอง)มะ!?ปัญหาของ แฟชั่นชุดนักศึกษา [สั้นเต่อ-รัดติ้ว]

ก็แค่ไม่ต้องมีเครื่องแบบนักศึกษาก็พอแล้ว!!!
จะมีหัวคิดโบราณไปถึงไหนวะ.... ยังมีอีกกี่ประเทศกันที่ให้นักศึกษามหาวิทยาลัยในชุดเครื่องแบบ ประเทศอื่นๆ เค้าให้แต่งยังไงก็ได้แล้ว เพราะโตๆ กันแล้ว ปล่อยๆพวกเค้าไปเหอะ ให้ดูแลตัวเองมีความรับผิดชอบเองซะบ้าง!!!! แล้วก็เอาข่าวมาออกยังงี้ คน(ไทย)เค้าจะเข้าใจเนื้อหาของสื่อผิดๆ กันไปใหญ่...

ครับ, ผมบ่นไปแค่นี้ก่อนเดี๋ยวเป็นเรื่อง!
จากข่าว : [ไทยรัฐ]'สั้นเต่อ-รัดติ้ว'ปัญหาใหญ่มหา'ลัย พูดง่าย แก้ยาก..
แฟชั่นชุดนักศึกษาสาวยุคนี้ที่ต้อง "สั้นเต่อ รัดติ้ว" เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงมาเป็นระยะ แต่การแก้ไขปัญหากลับไม่สามารถทำได้โดยง่าย แม้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ในยุคของ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะเคยให้ความสนใจถึงขั้นมีแนวคิดผลักดันให้การแก้ปัญหาเรื่องนี้เป็นวาระ แห่งชาติ และเสนอให้มหาวิทยาลัยต่างๆ ทบทวนการบังคับใช้กฎระเบียบการแต่งกายของนิสิตนักศึกษา โดยเฉพาะการแต่งกายของนิสิตนักศึกษาหญิงอย่างจริงจังก็ตาม

ก่อน หน้านี้ ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพล สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้เคยสำรวจความคิดเห็นเรื่อง "ปัญหาการแต่งกายของนิสิต นักศึกษาในระดับอุดมศึกษา" โดยเก็บข้อมูลจากนิสิต นักศึกษาระดับอนุปริญญาและปริญญาตรีจากสถาบันการศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน ทั่วทุกภาคของประเทศ โดยร่วมมือกับบริษัท เอ็มเว็บ (ประเทศไทย) จำกัด ในการเก็บผลสำรวจบางส่วนผ่านเว็บไซต์สนุกดอทคอม ปรากฏว่าส่วนใหญ่เห็นว่า การแต่งกายของนิสิต นักศึกษาในปัจจุบันเป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ถึงร้อยละ 72.6 เพราะเห็นว่าจะก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม อาทิ การล่วงละเมิดทางเพศ การข่มขืน ร้อยละ 59.9 ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของสถาบันและของตนเอง ร้อยละ 17.8

ผลสำรวจยังเห็นด้วยที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงวัฒนธรรมจะผลักดันการแก้ปัญหาการแต่งกายของนิสิต นักศึกษา ให้เป็นวาระแห่งชาติ ถึงร้อยละ 68.5 ประเด็นที่น่าสนใจคือ เมื่อถามความเห็นกลุ่มตัวอย่างถึงมาตรการที่จะนำมาใช้แก้ปัญหาการแต่งกายของ นิสิต นักศึกษาแล้วทำให้เห็นผลเป็นรูปธรรมมากที่สุด ส่วนใหญ่เห็นว่า ควรใช้กฎระเบียบของสถาบันการศึกษามาเป็นตัวบังคับอย่างจริงจังอาทิ ตัดคะแนน หรือไม่ให้เข้าชั้นเรียน ร้อยละ 47.5 ใช้การรณรงค์หรือชักจูงใจให้นิสิต นักศึกษา หันมาแต่งกายให้เหมาะสม ร้อยละ 30.2 และใช้มาตรการทางกฎหมายในการบังคับให้ผู้ผลิต เลิกผลิตเสื้อนักศึกษาที่ฟิต โป๊ หรือมีขนาดเล็กจนเกินไป ร้อยละ 15.7

อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างไม่เห็นด้วย หากจะให้สถาบันการศึกษาอนุญาตให้นักศึกษาแต่งชุดธรรมดาที่สุภาพ (Private) แทนการใส่ชุดนักศึกษา ร้อยละ 57.2 เพราะเชื่อว่าปัญหาเรื่องการแต่งกายไม่เหมาะสมของนิสิต นักศึกษาจะยังคงมีอยู่ ร้อยละ 60.0

จากผลการสำรวจดังกล่าวชี้ให้ เห็นว่า ส่วนใหญ่เชื่อว่า ทางแก้ปัญหานี้คือ ใช้กฎระเบียบของสถาบันการศึกษามาเป็นตัวบังคับอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการตัดคะแนน หรือไม่ให้เข้าชั้นเรียน และใช้การรณรงค์หรือชักจูงใจให้นิสิต นักศึกษา หันมาแต่งกายให้เหมาะสม ซึ่งสอดคล้องกับ นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ที่เห็นว่าทุกมหาวิทยาลัยมีระเบียบของมหาวิทยาลัยว่าด้วยเรื่องเครื่องแบบ และการแต่งกายของนักศึกษาอย่างชัดเจนอยู่แล้ว และก่อนที่จะเข้าไปเป็นนิสิตนักศึกษา ก็จะมีการจัดปฐมนิเทศและอบรมเกี่ยวกับการเตรียมตัวเข้าสู่ มหาวิทยาลัย พร้อมทั้งชี้แจงระเบียบต่างๆ ที่นิสิตนักศึกษาควรรู้และต้องปฏิบัติตาม ซึ่งจะรวมถึงการแต่งกายที่ถูกระเบียบด้วย ขณะที่ผู้บริหาร มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยจะไปเข้มงวดกับนักศึกษาเรื่องเครื่องแต่งกายมากนักคงไม่ได้ เพราะเส้นวัดความเหมาะสมของแต่ละคนต่างกัน จึงทำได้แค่ตักเตือนให้นักศึกษาแต่งกายให้เหมาะสมกับสถานภาพนักศึกษาเท่า นั้น

"ที่ผ่านมานิสิตหญิงอาจใส่เสื้อรัดรูป ส่วนนิสิตชายก็ใส่กางเกงเอวต่ำจนเห็นกางเกงบ๊อกเซอร์ แต่ก็ใช่ว่าปัญหาจะรุนแรง เพียงแต่นิสิตลองแต่งกายให้ดีอีกนิดก็จะดีขึ้น"

อธิการบดีจุฬาฯ กล่าวถึงโครงการนี้ว่า จะมีการประกวดขวัญใจคนในเครื่องแบบ เพื่อเป็นตัวแทนนิสิต การทำกิจกรรมและประชาสัมพันธ์ต่างๆ และตนจะนำเรื่องการแต่งกายที่ถูกระเบียบของนิสิต เข้าแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับอธิการบดีมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ด้วย จากนั้นจุฬาฯ จะมีการรณงค์เรื่องความซื่อสัตย์ และการตรงต่อเวลา ต่อไป ซึ่งเป็นผลจากการสำรวจซึ่งพบว่า สิ่งที่จะต้องแก้ไขในตัวนิสิตมี 3 เรื่องคือ การแต่งกาย ความซื่อสัตย์ และการตรงต่อเวลาต่อไป
อ่านเพิ่มเติมได้ใน : [ไทยรัฐ]'สั้นเต่อ-รัดติ้ว'ปัญหาใหญ่มหา'ลัย พูดง่าย แก้ยาก..
-----
เฮอ....... ไอ้เราน่ะเซ็งแทน....

ไปดูคนญี่ปุ่นเข้าคิวรอซื้อ Snow Leopard(Mac OS X 10.6) ใน อากิฮาบาระ(AKIHABARA)

เมื่อเที่ยงคืน1นาทีของวันที่ 28 สิงหาคม(ตามเวลาในJapan) Mac OS X 10.6 [Snow Leopard] ได้ออกวางในญี่ปุ่นแล้ว จากภาพในโตเกียว, อากิบะ(AKIBA) หรือชื่อเต็มว่าอากิฮาบาระ(AKIHABARA)นั้นเอง AKIBA เป็นทั้งแหล่งรวมศูนย์เครื่องใช้ไฟฟ้า ต่างๆ มากมาย และเป็นแหล่งรวมตัวของพวกชอบและคลั่งไคล้ใน anime การ์ตูน
ข้อมูลภาพจาก http://plusd.itmedia.co.jp/pcuser/articles/0908/28/news032.html

เริ่มต่อแถวกันตั้งแต่ช่วง3ทุ่ม!









นี่ยังน้อย น้อยเกินไป
น้อยกว่าตอนที่ iPhone ออกใหม่ๆ ซะอีก

[เพิ่งรู้จัก]ภาพยนตร์แอนิเมชั่น UP จาก pixar - Animation Movie [UP]

เพิ่งจะไปเห็นโฆษณา ก็เลยค้นหาเอาข้อมูลมาลงดู แต่ว่าคงไม่เพียงพออะไร เอาเป็นว่าชอบภาพยนตร์แอนิเมชั่นของค่าย pixar เป็นพิเศษ (แล้วก็หลงใหลในตัวของ สตีฟ จอบส์ อยู่พอควร :p) และก็เพิ่งจะรู้ว่าฉายในไทยไปนานแล้ว? จะอะไรก็ช่าง!!!!

Animation Movie [UP] by Pixar :
http://www.pixar.com/featurefilms/up/
http://disney.go.com/disneypictures/up/

Up - Official Trailer [HD]


ดูตัวอย่างอื่นๆ เพิ่มเติมได้ใน http://disney.go.com/disneypictures/up/ และที่ Youtube!

--- Picture ---

หึ!

กูเกิ้ลเอิร์ธ(Google Earth)จับภาพ ไดโนเสาร์เนสซี(Nessie)ได้? ที่ทะเลล็อคเนส(Loch Ness)

ได้รับข่าวจากคนในTwitter ก็เอามาแนะนำบ้าง(อาจจะช้าไปนิด นิดหน่อย) จากข่าว

ฮือฮารูปกูเกิ้ล ไดโนเสาร์ ทะเลล็อคเนส
คนแห่ไปดูถึงที่ไม่พบ แต่กูเกิ้ลเอิร์ธ(Google Earth) สามารถจับภาพ เนสซี(Nessie) สัตว์ประหลาดในตำนานแห่งทะเลสาบล็อคเนส(Loch Ness) ของสก๊อตแลนด์ได้ จากภาพถ่ายดาวเทียม

สำนักข่าวซินหัวของจีน รายงานวันนี้ ( 27 ส.ค. ) ว่า กูเกิลเอิร์ธ ภาพถ่ายดาวเทียม 3 มิติ สามารถจับภาพ "เนสซี"(Nessie) สัตว์ประหลาดลึกลับในตำนาน ได้ที่ทะเลสาบล็อคเนส ของสกอตแลนด์ได้ ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่าเนสซี่ มีตัวตนอยู่จริง

ทะเลสาบล็อคเนสนั้น เต็มไปด้วยความลึกลับและตำนานที่เล่าขานกันมา เนื่องจากเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในเกาะอังกฤษ และมีความลึกกว่า 250 เมตร เนสซี่ มีตำนานเล่าขานมาเป็นเวลายาวนาน ถูกจัดอันดับเป็นดาวเด่นของบรรดาสัตว์ประหลาดที่เล่าลือกันมาจนถึงปัจจุบัน



ใน ปี 2476 กระแสสัตว์ประหลาดเนสซี ทำให้ผู้คนทั่วโลกให้ความจับจ้อง เนื่องจากมีบุคคลอ้างว่าพบเห็นเนสซี่และสามารถถ่ายภาพไว้ได้ แต่ในที่สุดสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นเพียงการต้มตุ๋นหลอกลวง จากนั้นเป็นต้นมา มีข่าวลือว่า มีผู้พบเห็นสัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาบล็อคเนสอยู่เป็นระยะๆ

เมื่อปีที่ แล้ว กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ต้องการพิสูจน์ข่าวลือเรื่องเนสซ่า จึงใช้เครื่องโซนาร์ ตรวจหาคลื่นเสียงใต้น้ำ และพ่วงกล้องถ่ายรูป ลงไปค้นหาเนสซ่า ในความลึกระดับ 20 เมตร แต่ไม่มีรายงานว่านักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้สามารถจับภาพได้หรือไม่ ล่าสุดสำนักข่าวซิงหัวรายงานว่า กูเกิ้ลเอิร์ธ(Google Earth) สามารถจับภาพ เนสซี่ ได้จากดาวเทียม ในละติจูดที่ 57 องศา 12.52 ลิปดา 13 ฟิลิปดาเหนือ และลองติจูดที่ 4 องศา 34.14 ลิปดา 16 ฟิลิปดาตะวันตก





ข่าวจาก ไทยรัฐ ฮือฮารูปกูเกิ้ล ไดโนเสาร์ ทะเลล็อคเนส
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตครับ -_-

ขอไว้อาลัยกับ [เดย์ - Creative7419] เจ้าพ่อฟอนท์ไอโฟน(iPhone Font)*แก้ข่าวแล้ว!!!

เห็นหื่อหากันในเน็ตแล้ว แต่เช้านี่เสียเวลากับการแปลรีวิวNetWalker ไปหน่อย แล้วก็ไปเจอข่าวเลยนำมาเสนอกันหน่อย......
**แก้ข่าวจาก บอร์ด http://www.smart-mobile.com/forum/viewtopic.php?f=88&t=171832

จาก ที่ได้ดูข่าว ที่ออกทางสื่อไม่ว่าจะเป็นทาง TV หรือ ใน internet ขอแจ้งให้เพื่อน ๆ สมาชิกทุกท่านทราบนะครับว่า รูปที่ออกทางสื่อคือรูปของคุณเดย์จริง แต่ชื่อ-นามสกุล จริงนั้น ไม่ใช่ชื่อของคุณเดย์แต่อย่างใดครับโดยเนื้อหาของข่าวถูกจริงโดยส่วนหนึ่ง ครับ เรื่องที่ว่าคุณเดย์ไปหาหมอ รพ 3 แห่ง แต่ประเด็นที่ผิดก็เรื่องชื่อ และเรื่องฟ้องร้อง โดยทางญาติคุณเดย์ไม่ได้มีการฟ้องร้องอะไรตามข่าวที่ให้มานะครับครอบครัวคุณ เดย์เป็นคนน่ารักครับเงียบ ๆ และก็ไม่ได้มีติดใจเอาเรื่องอะไรกับทาง รพ หรือทางหมอเลย ที่มาแจ้งไว้ตรงนี้ก็อยากให้ทุกคนเข้าใจข้อเท็จจริงน่ะครับ ไม่อยากให้ทางครอบครัวของทางคุณเดย์ต้องลำบากยังไงคุณเดย์ก็ไปสบายแล้วหวัง ว่า เพื่อน ๆ พี่ ๆ สมาชิกคงเข้าใจนะครับ

นายพีรวีร์ ดวงสินกุลบดี ไม่ใช่คุณเดย์ครับ ชื่อจริงคุณเดย์คือ นายณัฐวัฒน์ ปาใจ

ผมไม่อยากให้เอาประเด็น 2009 มาร่วมน่ะครับ ผมคิดว่าข่าวน่าจะผิดพลาด
โดยการนำ ข่าว ของคุณเดย์และ คุณ พีรวีร์ ดวงสินกุลบดีมารวมกัน

คุณเดย์ไม่ได้เสียชีวิตจากไข้หวัด 2009 แต่เป็นเชื้อไวรัสที่ ลงปอด และเข้าสู่หัวใจ

ข่าวจากมติชน : สื่อสับสนยำการตาย"เจ้าพ่อฟอนท์ไอโฟน-หนุ่มแบงก์"ต้องสงสัยหวัด09 กลายเป็นคนเดียวกันทั้งที่ไม่ใช่

จากกรณีที่สื่อมวลชนหลายสำนักได้มีการนำเสนอข่าวการเสียชีวิตของนายพีรวีร์ ดวงสินกุลบดี หรือเดย์ อายุ 28 ปี ซึ่งถูกอ้างว่า เป็นเจ้าของนามแฝงในบอร์ด Creative 7419 และเป็นเจ้าพ่อแห่งฟอนท์ (font) บนไอโฟน (iPhone) ที่ทำให้ชาวไอโฟนใช้ฟอนท์ภาษาไทยได้ ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน 3 แห่ง แต่โรงพยาบาล 2 แห่งแรก กลับไม่ได้ให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ เพราะแพทย์วินิจฉัยว่า ไม่ได้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 จนนายพีรวีร์เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลแห่งที่ 3 ทั้งยังต้องเสียค่าใช้จ่ายรวมกว่า 3 ล้านบาท จนญาติของนายพีรวีร์ต้องเข้าร้องเรียนต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังมีการโพสข้อความผ่านอินเตอร์เน็ตที่ระบุว่า เขียนโดยนายเดย์ บรรยายเกี่ยวกับอาการป่วยและการเดินทางไปรักษาพยาบาล ก่อนเสียชีวิตว่า

"วันนี้ไปหาหมอตามที่หมอนัด ขึ้น BTS ไป คนก็เยอะ เลยต้องยืน สักพักเริ่มหวิวๆ เริ่มคลื่นไส้ แล้วโลกก็มืดลง แขนก็เริ่มชา มองอะไรไม่เห็นเลย ประมาณ 5 นาทีจนถึงสยาม คนลงเยอะก็ตั้งสติ เพ่งเห็นรางๆ ว่าที่นั่งว่าง ไม่ฟังเสียงล่ะครับ (หูอื้อ) คลำๆแล้วนั่งเลย แล้วก็นั่งก้มหน้าแบบสุดๆ โลกเริ่มสว่างขึ้น ทางเดินสายโลหิตเหือดแห้ง มือซีดเหลืองชาๆ แอร์บนรถเย็นมาก แต่เหงื่อยังกับอาบน้ำใหม่ๆ แบกสังขารไปจนถึง พุ่งหาร้านข้าวกินข้าว แล้วก็ไปพบหมอ หมอเจาะเลือดไปตรวจ เอ่อ หมอครับ เมื่อวันพฤหัสฯผมก็เพิ่งโดนเจาะไปครับ แล้วเมื่อกี้ก็หน้ามืดเลือดหมดครับหมอ หมอบอกไม่เป็นไรเอานิดเดียว ผลตรวจเลือดออกมา เกล็ดเลือดปกติ เม็ดเลือดขาวปกติ ไข้เลือดออกไม่เป็น ทำหมองงอีกคนแล้ว เลยถามไปว่าหรือจะเป็น 2009 หมอบอกตัดไปเลย 2009 อาการหลักต้องไอ เจ็บคอ แต่คุณไม่ไอ ไม่เจ็บคอ ไม่มีอะไรเลย ตัวร้อนเฉยๆ สรุปก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ นัดให้มาวันจันทร์อีก บอกว่าถ้ายังไม่ดีขึ้นก็ต้องเรื่องใหญ่กันเลยล่ะ ต้องแอดมิดให้น้ำเกลือ เอาเลือดไปตรวจละเอียดหาไทรอยด์ หานั่นนู่นนี่ คิดในใจว่านี่ต้องทรมานไปอีก 2 วันหรือนี่ แล้วหมอก็ให้ยาลดไข้มาแค่นั้น"

ในวันรุ่งขึ้น "เดย์" ยังโพสต์ข้อความอีกครั้งว่า "ไม่ไหวแล้ว ไปกราบขอหมอนอน รพ.ดีกว่า จะกี่หมื่นกี่แสนก็ยอม เรียก Taxi มารับก่อน เดี๋ยวไปเองหน้ามืดอีก"

และมีการนำรูปชายคนหนึ่งโพสไปว่า เป็น นายพีรวีร์ ด้วยการส่งลิงค์ของ www.hi5.com ซึ่งระบุว่า เป็นนายเดย์ จนเป็นเหตุให้นักท่องไซเบอร์เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ นายพีรวีร์ ด้วยการโพสต์ข้อความโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์การวินิจฉัยของแพทย์ และมีลิงค์เข้าไปในเว็บไซต์ Smart-Mobile.com ที่นายเดย์เข้าใช้เป็นประจำนั้น

ปรากฎว่า เมื่อทางมติชนออนไลน์ ได้สอบถามข้อเท็จจริงไปยัง มารดา ของนายพีรวีร์ ทำให้ทราบความจริงทั้งหมดว่า ชื่อ เล่นของนายพีรวีร์นั้น คือ เซฟ ไม่ใช่เดย์ดังที่ปรากฎเป็นข่าว ซึ่งนายพีรวีร์นั้น มีอาชีพเป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง ย่านสาทร รวมทั้งมีบ้านอยู่ที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ส่วนรูปผู้ชายคนหนึ่งที่มีการนำเสนอผ่านสื่อนั้นก็ไม่ใช่รูปภาพของนายพีร วีร์แต่อย่างใด และตนก็ไม่ทราบว่า นายพีรวีร์ บุตรชาย มีความเชี่ยวชาญเรื่องฟอนท์ภาษาไทยในไอโฟนหรือไม่ หรือมีความเชี่ยวชาญในการใช้อินเตอร์เน็ตเพียงใด เห็นเพียงแต่ว่า ลูกชายเปิดใช้อินเตอร์เน็ตตามปกติในเวลากลางคืน

ขณะที่สาเหตุการเสียชีวิตของบุตรชายนั้น มารดา นายพีรวีร์ กล่าวว่า บุตร ชายเริ่มมีอาการเป็นไข้มาตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้ไปรักษาในโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรก ต่อมากลับมาบ้านก็เหมือนอาการจะดีขึ้น แต่ยังคงไออยู่ ต่อมาก็เป็นหนักขึ้นอีก จนต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งที่ 2 แพทย์ก็ไม่ได้ตรวจพบเชื้อหรืออาการต้องสงสัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 จนกระทั่งนายพีรวีร์ต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งที่ 3 ก่อนจะพบว่าปอดติดเชื้อและลามไปมากแล้ว และสุดท้ายนายพีรวีร์ก็เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา และได้มีการสวดพระอภิธรรมศพและฌาปนกิจไปแล้ว ที่วัดหนามแดง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

ด้านน้าชายของนายพีรวีร์กล่าวว่า หลาน ชายของตนเองนั้นขับรถเก๋งไปพบแพทย์เองทุกครั้ง ใน 3 โรงพยาบาล จนวาระสุดท้าย และกระทั่งปัจจุบัน ก็ยังไม่ได้รับรายงานจากแพทย์ว่า แท้จริงแล้วนายพีรวีร์ ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 หรือไม่ เพระาที่ผ่านมาอาการป่วยทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับนายพีรวีร์นั้นไม่เข้าข่ายแต่ อย่างใด แต่แพทย์ได้ลงความเห็นการเสียชีวิตว่า "ปอดวายเฉียบพลัน" ซึ่งที่ผ่านมา ทางคณะแพทย์ได้มีการให้ยาต้านไวรัสทุกชนิดที่สามารถจะยับยั้งอาการได้ แต่ปอดของนายพีรวีร์นั้น เปรียบเหมือนมะม่วงสุก ไม่มีเวลาจะสอบสวน ซึ่งตนคิดว่า มันก็เหมือนรถที่กำลังจะตกเหว หาทางช่วยอะไรได้ก็ต้องรีบช่วยไว้ก่อน ทั้งนี้ ตนยังไม่อยากโทษโรงพยาบาลใดๆ เพราะจริงๆแล้วยังไม่รู้ว่า หลานชายเสียชีวิตเพราะเหตุใด รวมทั้งยังขอขอบคุณรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ซึ่งดำเนินการโดย สรยุทธ์ สุตทัศนจินดา ที่นำเรื่องของครอบครัวของตนมาเผยแพร่ผ่านทางโทรทัศน์ ทั้งนี้ ทางครอบครัวไม่ว่าอะไร แม้ข้อมูลที่ออกมาจะไม่ถูกต้องทั้งหมด แต่อยากจะขอให้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุทธาหรณ์และอยากจะขอความเป็นธรรมจาก ทางรัฐบาลด้วย

ส่วนเรื่องข้อมูลที่มีการแย้งกันว่า เดย์ ไม่ใช่นายพีรวีร์ ซึ่ง นายพีรวีร์ตัวจริงเป็นแค่บุคคลธรรมดาไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องการเปลี่ยนฟอนท์ ภาษาไทยในไอโฟน และมีการใช้นามแฝงในอินเตอร์เน็ต รวมทั้งโพสต์ข้อความก่อนการเสียชีวิตในเว็บไซต์แห่งหนึ่งนั้น น้าของนายพีรวีร์กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียด และไม่รู้ว่า นายพีรวีร์มีสังคมในโลกอินเตอร์เน็ตอย่างไรจึงไม่รู้ข้อเท็จจริง เช่นเดียวกับเพื่อนสนิทของนายพีรวีร์ ที่กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าเพื่อนของตนมีบทบาทในอินเตอร์เน็ตในการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน เทคโนโลยี โทรศัพท์มือถือหรือไม่ แต่เท่าที่รู้ไม่น่าจะใช่คนเดียวกัน เพราะนายพีรวีร์ไม่ได้เก่งกาจขนาดนั้นและโทรศัพท์รุ่นที่ใช่ก็เป็นยี่ห้อโนเกีย

ขณะที่อีกด้าน ทางมติชนออนไลน์ ได้รับโทรศัพท์ชี้แจง มาจากชายคนหนึ่งซึ่งอ้างว่า เป็นเพื่อนสนิทของนายเดย์ โดยระบุว่า นายเดย์ ตัวจริงนั้นมีชื่อว่า ญัฐวัฒน์ ปาใจ ซึ่งเป็นเจ้าของนามแฝงในบอร์ด Creative 7419 และเป็นเจ้าพ่อแห่งฟอนท์บนไอโฟนและได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนข้อมูลที่นายเดย์ หรือนายณัฐวัฒน์ โพสต์ลงในเว็บไซต์ Smart-Mobile.com ก็เป็นความจริง ทั้งหมด แต่นายเดย์นั้นไม่ได้เสียชีวิตเนื่องจากติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 แต่เป็นการเสียชีวิตด้วยไวรัสธรรมดาเท่านั้น และพบว่าปอดได้ถุกทำลายไปจริง ซึ่งนายเดย์ หรือนายณัฐวัฒน์ เริ่มเป็นไข้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันเกิดอายุครบ 28 ปี ของเขา ต่อมาก็รักษาตัวในโรงพยาบาลทั้ง 3 แห่ง จนกระทั่งนอนอยู่ที่รพ.แห่งที่ 3 เพียง 2 วัน ก็มาเสียชีวิตในวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา

สำหรับการตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายณัฐวัฒน์นั้น เพื่อนสนิทของนายณัฐวัฒน์ กล่าวว่า ได้มีการนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่ วัดบ้านด่านนาขาม ตำบลบ้านด่านนาขาม อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายณัฐวัฒน์ โดยจะมีการฌาปนกิจศพในวันอาทิตย์ที่ 30 ส.ค. นี้ อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่า ทาง ครอบครัวของนายณัฐวัฒน์ ไม่ได้ มีการระบุว่า ใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลไปจำนวน 3 ล้านบาทแต่อย่างใด และไม่ได้ไปเรียกร้องจากนายกรัฐมนตรีด้วย ส่วนข้อเท็จจริงทั้งหมด ในเว็บที่กล่าวมาก็มีการระบุชื่อนายณัฐวัฒน์ถูกต้อง แต่สื่อมวลชนกลับไปนำชื่อของนายพีรวีร์มา ผสมเป็นนายเดย์ จึงทำให้ทั้ง 2 ครอบครัวเกิดความสับสนดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า ภายในเว็บไซต์ Smart-Mobile.com และ thai-iPhone.com ได้มีการวิพากษ์ วิจารณ์กันถึงการวินิจฉัยของแพทย์ ตั้งแต่ รพ.เอกชนแห่งแรกที่นายญัฐวัฒน์ไปหา แล้วแพทย์ระบุว่า เป็นไข้ติดเชื้อ และให้เพียงยาพาราเซตามอล ลดไข้มากิน สองวันต่อมาไข้ไม่ลด ผู้ป่วยไปหาแพทย์ใหม่อีกครั้ง แพทย์ก็ยังไม่ตรวจละเอียด และให้พาราเซตามอลมาอีก จนผู้ป่วยต้องนั่งรถไฟฟ้าไปพบแพทย์ ก่อนได้รับการฉีดยาและกลับบ้าน วันรุ่งขึ้นแน่นหน้าอก ไปตรวจใหม่พบปอดติดเชื้อถึง 25% แพทย์ก็ยังไม่สั่งให้นอน รพ. บอกให้กลับบ้าน จนกระทั่งผู้ป่วยรู้ตัวว่าไม่ไหวจึงไป รพ.แห่งที่ 3 และพบว่าเป็นไข้หวัด 2009 แต่ก็สายเกินไปที่จะรักษาแล้ว ในที่สุดนายณัฐวัฒน์ก็เสียชีวิตลง

สำหรับข่าวการเสียชีวิตของนายเดย์ ได้ถูกนำไปบอกต่ออย่างแพร่หลาย ทั้งการฟอร์เวิดเมล ข่าวตามสำนักข่าวต่างๆ ทั้งข่าวโทรทัศน์ และสื่อสิ่งพิมพ์ และอินเตอร์เน็ต โดยที่ข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของชายหนุ่มทั้ง 2 คนนั้น มีความคล้ายคลึงกันมาก ด้วยปัจจัยสนับสนุน ผิดตรงแค่ว่าเป็นคนละกรณีเดียวกัน โดยทั้งญาติของนายพีรวีร์และนายณัฐวัฒน์นั้น ต่างก็ขอให้มีการชี้แจงความจริงที่ถูกต้องต่อไปด้วย

แก้ข่าวจากมติชน : สื่อสับสนยำการตาย"เจ้าพ่อฟอนท์ไอโฟน-หนุ่มแบงก์"ต้องสงสัยหวัด09 กลายเป็นคนเดียวกันทั้งที่ไม่ใช่

ข่าวเดิม : เจ้าพ่อฟอนท์ไอโฟน ดับสังเวยหวัด09 ชาวเน็ตจวกแหลกรพ.เอกชนไม่รักษา ไม่ให้ยาต้าน ทั้งที่ไข้ขึ้นหนัก

ทาง นักเลง blog รู้สึกเสียใจต่อญาติ และขอไว้อาลัยกับเหตุการณ์นี้.....

มันเป็นเรื่องน่าเศร้านัก.....

website และ webboard ที่เกี่ยวข้องกับ นายญัฐวัฒน์ ปาใจ หรือเดย์
ขอไว้อาลัยการจากไปให้กับ คุณ Creative7419 ครับ
กระทู้ต้อนรับ firmware 3.0 + ไว้อาลัยให้ เดย์
Hi5ของ นายญัฐวัฒน์ ปาใจ หรือเดย์ [MonkeyDay] - http://trojancop.hi5.com

รีวิว(Review):เครื่องมือพกพา Sharp(ชาร์ป) [NetWalker PC-Z1] (Ubuntu)

Japan : "หนัก 409 กรัม และใช้งานได้นาน 10 ชั่วโมง" เรามาติดตามดู Sharp [NetWalker PC-Z1] กันดีกว่า!!!
เพิ่มเติมบทความจาก " Sharp(ชาร์ป) ปล่อย [NetWalker] ใช้ Ubuntu ขนาดพกพา A6! "
ทดลองใช้ [NetWalker]เครื่องมือขนาดเล็กที่มีฐานของLinux จาก Sharp(ชาร์ป) ว่าใช้งานอย่างไร? การพิมพ์บทความยาวๆ? การแสดงภาพเคลื่อนไหว? และการเปรียบเทียบกับ Type P
แปลข่าวจาก http://plusd.itmedia.co.jp/pcuser/articles/0908/27/news060_3.html

>>เครื่องมือพกพาขนาดเล็ก ที่หลุดหนีจากการยึดติด Windows
[NetWalker]ที่ถูกประการจาก Sharp เมื่อวันที่27 สิงหาคม ได้ถูกลงในสิ่งค้าประเภทของ MID（Mobile Internet Device）แล้ว. OS(ระบบปฏิบัติการ)ที่นำมาใช้ ไม่ใช่ Windows แต่เป็น ubuntu 9.04(Customized). ผมลัพธ์ก็คือ การใช้งานร่วมกันของCPUx86, Main Memory 1G, จัดเก็บข้อมูลภายในจำนวนกว่าหลายกิกะไบต์. เป็นเครื่องมือขนาดเล็กและมีBatteryที่ใช้ได้ทนนาน โดยหลุดจากขีดจำกัดขอความต้องการใน Windows . เพราะฉะนั้นเราจึงรีบนำมารีวิวอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ว่าคราวนี้เป็นการใช้จากเครื่องรุ่นทดลอง กว่าจะถึงเวลาวางขายจริงอาจมีการปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงระบบให้ดียิ่งกว่าเดิม

CPUของNetWalker นั้น ไม่ได้ใช้ฐานโปรเซสเซอร์ของ Atom ที่เห็นทั่วไปใน Netbook แต่เป็นการใช้ Freescale i.MX515 ที่นำมารวมตัวกับฐานของ ARM Cortex A8. คล๊อกของCPU(ความถี่) 800MHz, Main Memory 512MB, การจัดเก็บข้อมูลภายใน 4GB Flash Memory. แม้ว่าจะมีความด้อยกว่าเมื่อเทียบกับ Netbook แต่ไม่มีปัญหา สำหรับการเล่นภาพเคลื่อนไหวนั้นเป็นไปอย่างดี ขณะใช้งานสามารถใช้ได้นาน 10 ชั่วโมงจริง แล้วยังมีน้ำหนักแค่ 409กรัมอีกด้วย. ระบบNetwork ติดตั้งภายในเป็น IEEE 802.11b/g


การต่อ Interface มีช่องพอร์ต USB2.0 อยู่ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่อง 1พอร์ต และที่ด้านขวามีพอร์ต USB2.0 mixiAB อีก1พอร์ต รวมเป็น2พอร์ต


แม้ว่าจะมีหน่วยจัดเก็บข้อมูลภายในเพียง 4GB Flash Memory แต่ก็มีช่องสล็อตของ microSD/microSDHC อยู่ด้านล่างของตัวเครื่อง. อาจเป็นเพราะคาดไว้ว่าคงไม่ได้ถูกใช้อะไรมาก แต่ในขณะนี้ microSDHC ขนาด 16GB นั้นมีราคาต่ำลงมาเรื่อยๆ หากต้องการเพิ่มการเก็บข้อมูลก็จะใช้งานได้



>>เปรียบเทียบขนาดเครื่องกับ VAIO type P , Electronic Dictionary(พจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์)
ลองเทียบขนาด กับVAIO type PของSony และเครื่องพจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์อื่น จากภาพ







>>มีความคมชัดที่สว่างและดูง่าย แต่ว่าการพิมพ์ตัวอักษรยาวๆ นั้นคงยากเล็กน้อย
ขนาด ความละเอียดของจอคือ 1024x600dot wide มองแบบผ่านๆ แล้วมีความสว่างคมชัดดี ไม่มีปัญหากับการดูVideo ภาพเคลื่อนไหว. Panelด้านบนและล่าง(Menu bar & Task bar)ของ ubutu มีขนาด 48pixel สามารถปรับให้ซ่อนตัวได้ หากใช้ Firefox กด F11 ก็สามารถดูแบบเต็มจอได้



ในส่วนของคีย์บอร์ด ปุ่มมีขนาด 14 mm อาจคงไม่สามารถทนต่อการพิมพ์ข้อมูลได้เยอะมากนัก ช่วงความลึกในการกดนั้นน้อย น่าจะใกล้กับคำว่า "ปุ่ม" มากกว่าคำว่า "คีย์" . ไม่เพียงแต่ปุ่มSpacebarที่มีความกว้างยาวแล้ว ปุ่มอื่นก็เช่นกัน หากไม่กดที่กึ่งกลางปุ่มอย่างตรงๆ แล้ว ปุ่มก็จะเอียงไปข้างๆ . แม้ว่าการพิมพ์ของแต่ล่ะคนอาจมีความแตกต่างกันออกไป ยังใช้งานได้ดีสำหรับการพิมพ์แต่ส่งเมล แต่หากเป็นการพิมพ์ข้อความยาวๆ ล่ะก็ คงไม่เหมาะอะไร

สำหรับเครื่องมือ Pointing device ไม่ได้มีเพียงระบบสัมผัสหน้าจออย่างเดียว ยังมีระบบ Optical Point อยู่ด้วย(มันคืออะไรหว่า!?!?) Optical Point ติดตั้งอยู่ที่ด้านบนขวามือของคีย์บอร์ด มีขนาดเพียง 6x8mm Touch Panel . เป็นการใช้งานร่วมกันของ Touch Panel กับ Pointing Stick(อ้าว... งงงงๆๆ)
ในกรณีใช้งานโดยถือด้วยสองมือ นิ้วโปงขวามือควบคุม Optical Point นิ้วโปงซ้ายมือควบคุม การกดคลิ้กซ้าย-ขวา คงต้องมีความจำเป็นที่จะชินต่อการทำงานเพื่อขยับนิ้วบน-ล่าง,ซ้าย-ขาว ในงานที่ละเอียดเล็กน้อย. แม้ว่าตัวเครื่องนั้นเล็ก การควบคุมการทำงานสัมผัสหน้าจอ โดยถือมือข้างเดียวก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรมากนัก. นอกจากนั้นแล้วด้านบนของคีย์บอร์ด มี Quick Start ปุ่มเซ็นเซอร์แบบสัมผัส(Touch Sensor) อยู่ 4 ปุ่ม ด้วยการออกแบบดีไซน์ของตัวเครื่อง เมื่อมองเผินๆ แล้วอาจไม่สังเกตุเห็นปุ่มลัดพวกนี้ก็ได้



>>ubuntu 9.04 , ใช้งานได้คือแพคเกจของระบบ ARM
OS ของ NetWalker คือ (Sharp รุ่นCustomized) ubuntu 9.04 นั้นก็คือ Distribution ล่าสุดตัวหนึ่งที่ได้รับความนิยมในขณะนี้
นอกจากจะมี Firefox เป็น Web Browser(เว็บเบราเซอร์), โปรแกรมอีเมล(Mail Software)คือ ThunderBird เป็นเครื่องมือสำหรับใช้ติดต่ออินเตอร์เน็ตแล้ว ยังมีโปรแกรมการแสดงข้อมูลไฟล์ PDF , Evince , Witer, Calc, Impress ของ OpenOffice.org อยู่ด้วย คงไม่มีการเปิดข้อมูลไฟล์จากเมลที่ได้รับมาไม่ได้ แม้ว่าไม่ได้ลงบันทึกไว้ในเมนู ยังมี Multi Protocol Messenger ของ Pidgin , Remote Desktop Server ของ vino ก็ถูกลงไว้เรียบร้อยแล้วด้วย

เปรียบเทียบการใช้งานเอกสาร Word(Writer ของ OpenOffice.org) บน [NetWalker PC-Z1] ใช้รวมกับ Microsoft Office Word


เปรียบเทียบการใช้งานเอกสารตารางสเปรดชีต(พวกตารางอย่าง Excel)โดย OpenOffice.org Spreadsheet(Calc) บน [NetWalker PC-Z1] ใช้รวมกับ Microsoft Office Excel


เปรียบเทียบการสร้างเอกสารงานพรีเซ็นต์ โดย OpenOffice.org Presentasion(Impress) บน [NetWalker PC-Z1] ใช้รวมกับ Microsoft Office PowerPoint


และแน่นอน สามารใช้งาน Package manager ที่เรียกว่า Synaptic ใน ubuntu ได้ด้วย.


เครื่องมือมัลติมีเดีย(Multimedia)ใน CPU นั้นคือการเล่นพวกภาพเคลื่อนไหว(คลิป video clip). ระบบที่รับรองคือ MPEG4, VC-1, H.264, FLV, ระบบเสียงที่รับรองคือ MP3, HE-ACC, WMA ในการทดลองแล้วไม่สามารถเปิดอ่านหรือทำงานไฟล์อย่าง MPEG2 หรือพวก WMV, DivX ได้ . อีกอย่างนึกการประเมินผลของการทำงานพวก FLASH Player ดูเหมือนจะเป็น [Flash Player Lite 3.1] สามารถดูคลิปวีดีโอจาก Youtubeได้ ถูกปฏิเสธการแสดงภาพเคลื่อนไหวจากบริการบางแห่ง(อย่างใช่ NICONICO DOUGA ในญี่ปุ่น)


>>เครื่องมือ Linux ขนาดพอๆ กับพจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์
ในตอนแรกที่ได้ยินเรื่อง NetWalker ก็รู้ว่าคือเครื่องมือขนาดเล็กมีน้ำหนัก 409 กรัม พร้อมด้วยคีย์บอร์ดขนาดเต็ม(Full Keyboard)แล้ว แต่เป็นเรื่องรู้ชัดได้ว่าคีย์บอร์ดของ NetWalker นั้นไม่ถนัดต่อการพิมพ์ข้อมูลยาวๆ มากๆได้ หากถามว่าเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับ VAIO Type P แล้ว ก็คิดว่าได้น่าจะ "เพียงพอต่อการประยุกต์ใช้" ประมาณว่าเหมาะสมสำหรับศักยภาพในการพัฒนามีเพียงพอ
NetWalker มีทั้ง Web Browser(เว็บเบราเซอร์), โปรแกรมอีเมล(Mail Software), เครื่องมือการประมวลผล Word และแบบสเปรดชีต(พวกตารางอย่าง Excel) , เครื่องมือที่สามารถใช้งานต่างได้แล้ว เหนือกว่านี้แล้วยังสามารถทำงานได้ ตามแต่ความต้องการ ความชอบของผู้ใช้(User)เอง. ผลหวังใหญ่ก็คือ, ไม่ว่าจะเป็นของบริษัท Sharp(ชาร์ป) หรือ OS ของ ubuntu ที่มี ubuntu Community(ชุมชนคนใช้ ubuntu) หรือ Freescale เราคงได้รับการสนับสนุน การSupport จากหลายๆ ด้านได้อีกด้วย
Thank : http://plusd.itmedia.co.jp/pcuser/articles/0908/27/news060_3.html

เสร็จซะที เหนื่อยๆๆๆๆ
ที่ทดแปล เอาบทความมาลงนี้ก็เพราะดูมันน่าสนใจดี(ความเห็นส่วนตัวนะ)ไม่รู้ว่าจะมีออกมาขายในประเทศไทยหรือเปล่า อยากได้มากๆ หางานพิเศษทำเก็บตังไว้ก่อนดีก่า....