![นาย ทาโร อาโซะ](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg6GquwKy22QlGdsgxmxetvlR1XYbkAnnxa3UgTTy524He-ax3GDeBxt4dADpr1ordsbSr8oA_KNV-BODo98vg2T47Lal_QQmZ_Cuazs1qo8FzVaxkneTl5_P4pJS2R9vJnFgzj6tesVsCB/s320/29790.jpg)
นาย ทาโร อาโซะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคว่า เขาจะต้องรับผิดชอบกับผลการเลือกตั้งที่ออกมา เขาจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค และจะมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่โดยเร็ว เพื่อที่พรรคจะได้เร่งทำงานสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ นายฮิโรยูกิ โฮซาดะ เลขาธิการพรรคแอลดีพี บอกว่าเขาและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคอีก 2 คน ก็เตรียมที่จะยื่นใบลาออกจากตำแหน่งต่อนายอาโซะเช่นกัน
ทั้งนี้ ผลเอ็กซิตโพลทั้งจากสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค และสถานีโทรทัศน์อาซาฮี ชี้ว่าพรรคแอลดีพีของนายอาโซะ จะได้ที่นั่งในรัฐสภาเพียง 100-130 ที่นั่งเท่านั้น ขณะที่พรรคประชาธิปไตยญี่ปุ่น หรือดีพีเจ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน จะได้ไปที่นั่งถึง 315 ที่นั่ง.
จาก http://www.thairath.co.th/content/oversea/29790
ข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ฝ่ายค้านญี่ปุ่นชนะเลือกตั้ง มุ่งฟื้นศก.-สู่การเมืองใหม่
เอเจนซี/เอเอฟพี – ฝ่ายค้านญี่ปุ่นได้ชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ในการเลือกตั้งสภาล่างวานนี้ (30) เมื่อบรรดาผู้ออกเสียงพากันหมางเมินหันหลังให้กับ “ลิเบอรัล เดโมเครติก ปาร์ตี้” (แอลดีพี) พรรคแนวทางอนุรักษนิยมซึ่งปกครองประเทศแทบจะต่อเนื่องตลอดเวลากว่าครึ่ง ศตวรรษ แล้วเทคะแนนแบบถล่มทลายให้ “เดโมเครติก ปาร์ตี้ ออฟ แจแปน” (ดีพีเจ) พรรคหัวกลาง-ซ้ายซึ่งไม่เคยเป็นรัฐบาลมาก่อนเลย เพื่อทำหน้าที่ฟื้นฟูเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่ ตลอดจนปรับเปลี่ยนนโยบายทางด้านการเมือง, การต่างประเทศ, และสังคม
![ยูกิโอะ ฮาโตยามา](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh4TVmhy67xxGl3ooJA2FiicU1pmjvKirE3dwZS_bwo0H47g7nnSpEpC7uHlrkPglsakQGJEq1vtw_bqhLU3RPLimwjLHPavmVd2JuATOJOXNdTDQIqQzlE5aN19qQ_GUfut5_iowV0bz3F/s320/552000010869501.jpg)
ยูกิโอะ ฮาโตยามะ ผู้นำพรรคดีพีเจก็ดูจะตระหนักเรื่องนี้เป็นอย่างดี โดยเขาพูดระหว่างการแถลงข่าวถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ว่า “ประชาชนกำลังโกรธกริ้วการเมืองในปัจจุบันและคณะรัฐบาลผสมในเวลานี้ เราตระหนักเป็นอย่างดีถึงความรู้สึกอันใหญ่หลวงของประชาชนที่ต้องการให้เกิด การเปลี่ยนแปลงในชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา และเราก็ต่อสู้ในการเลือกตั้งคราวนี้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคณะรัฐบาล”
ตามการคาดการณ์ของสื่อหลายสำนักภายหลังการลงคะแนนเสร็จสิ้นลง แสดงให้เห็นว่าดีพีเจกำลังจะได้ชัยชนะแบบถล่มทลาย โดยที่เป็นไปได้ว่าจะได้เสียงถึงสองในสาม นั่นคือ 320 ที่นั่ง จากสภาล่างทั้งสภาที่มี 480 ที่นั่ง การพยากรณ์เช่นนี้ก็สอดคล้องกับคำทำนายก่อนหน้านี้ที่ว่า พรรคแอลดีพีของนายกรัฐมนตรีทาโร อาโซะ จะปราชัยแบบย่อยยับ
โยชิฮิเดะ ซูกะ รองหัวหน้านักยุทธศาสตร์วางแผนรณรงค์หาเสียงของแอลดีพี ได้ออกมาแถลงข่าวยอมรับว่า พรรคซึ่งปกครองประเทศอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นมาในปี 1955 โดยมียกเว้นถูกฝ่ายค้านเข้าแทรกก็เพียงแค่ประมาณ 10 เดือนเท่านั้น กำลังจะประสบ “ความปราชัยครั้งประวัติศาสตร์”
การพ่ายแพ้ของแอลดีพียังหมายถึงการแตกกระจัดกระจายของหุ้นส่วน 3 ฝ่าย อันได้แก่ แอลดีพี, ธุรกิจใหญ่, และข้าราชการ โดยหุ้นส่วนนี่เองที่เปลี่ยนแปลงญี่ปุ่นให้เข้าสู่ฐานะการเป็นมหาอำนาจทาง เศรษฐกิจ ภายหลังพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง ทว่ายุทธศาสตร์เช่นนี้ก็ถึงคราวเผชิญปัญหาหนักทำท่าไปไม่รอดเรื่อยมา นับแต่ที่ “ฟองสบู่” เศรษฐกิจของญี่ปุ่นแตกระเบิดออกเมื่อปลายทศวรรษ 1980 และจากนั้นการเจริญเติบโตของแดนอาทิตย์อุทัยก็อยู่ในภาวะชะงักงันโดยตลอด
เจอร์รี เคอร์ติส ผู้เชี่ยวชาญด้านญี่ปุ่น ณ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ของสหรัฐฯ ชี้ว่า สิ่งที่กำลังบังเกิดขึ้นในเวลานี้ คือ “การสิ้นสุดของระบบการเมืองหลังสงครามโลกในญี่ปุ่น” และ “มันเป็นเครื่องหมายแสดงถึงจุดจบของยุคสมัยอันยาวนานยุคหนึ่ง และก็เป็นการเริ่มต้นของอีกยุคสมัยหนึ่งซึ่งยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน”
พวกตลาดการเงินได้ตั้งความหวังมาพักใหญ่แล้วว่า ชัยชนะอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งสมาชิกสภาล่างของดีพีเจ จะเป็นการแก้ไขภาวะติดขัดอึดอัดทางการเมือง เพราะดีพีเจและพรรคพันธมิตรอื่นๆ รวมกันก็สามารถครองเสียงข้างมากในสภาสูงได้อยู่แล้ว โดยที่สภาสูงแม้มีอำนาจน้อยกว่าสภาล่างมาก แต่ก็สามารถยับยั้งการออกกฎหมายหรือการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำแหน่งสำคัญๆ ได้ อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลชุดใหม่มีการเพิ่มการใช้จ่ายมากมายตามที่ให้สัญญาไว้ตอนหาเสียง ก็อาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจ และอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้รัฐบาลอาจจะเพิ่มขึ้น ซึ่งก็เท่ากับอัตราดอกเบี้ยระยะยาวขยับสูงขึ้นไปนั่นเอง
ผลเอ็กซิตโพลที่พวกสื่อมวลชนประกาศออกมาภายหลังปิดหีบลงคะแนน แสดงให้เห็นว่าแอลดีพีจะชนะได้ที่นั่งเพียงแค่เกิน 100 ที่นั่งเล็กน้อย จากที่เคยมีอยู่ถึง 300 ที่นั่ง ส่วนพรรคนิว โคเมอิโตะ ปาร์ตี้ ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล คาดหมายว่าจะได้ราวๆ 20 ที่นั่ง
ขณะที่ดีพีเจนั้น ทีวีอาซาฮีทำนายว่าจะได้ 315 ที่นั่ง ทีบีเอสพยากรณ์ว่าจะชนะ 321 ที่นั่ง และ เอ็นเอสเคคาดหมายว่าจะได้ระหว่าง 298 ถึง 329 ที่นั่ง
![ยูกิโอะ ฮาโตยามา](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgRWKDUmMVp5gAgP-c1Sdz59hpW67eKINlD421bwCh4oeFK7CFeu-11p1yKGj0Un4CGH17f5IvMKOa1UuX42wrmp7OB-w7ZfZMXoxi83V05qvunHccFDIxfQd_gPMeDOLHn6Rd5Ufk5zdys/s320/29782.jpg)
อย่างไรก็ตาม แรงหนุนหลังพรรคดีพีเจก็ใช่ว่าจะแข็งขันหนักแน่นอะไรนัก ผู้ออกเสียงดูจะอยู่ในอาการสุดทนกับแอลดีพี จนต้องการทดลอง “ของใหม่” แม้จะรู้สึกไม่มั่นใจเท่าใดนักว่าดีพีเจจะแก้ปัญหาต่างๆ ของประเทศได้ดีแน่ๆ
“มันจะต้องเป็นปัญหาหนักหน่วงทีเดียวสำหรับดีพีเจที่จะจัดสรรเงินทอง ไปในเรื่องต่างๆ ให้ถูกต้องเหมาะสม แต่ผมคิดว่าถึงยังไงเราก็ควรต้องให้โอกาสพวกเขาสักครั้ง” ยาสุฮิโร คุมาซาวะ เจ้าของร้านอาหารวัย 38 ปีให้ความเห็น “ถ้ามันไม่ได้ผล เราก็ยังสามารถเลือกแอลดีพีกลับมาในอีก 4 ปีข้างหน้า”
เช่นเดียวกับ คาซุยะ สึดะ แพทย์เกษียณอายุไว้ 78 ปีในกรุงโตเกียวที่ไปโหวตให้ดีพีเจ ซึ่งกล่าวว่า “ผมไม่ชอบสิ่งต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ในประเทศของเรา สิ่งต่างๆ จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเสียที”
ดีพีเจให้สัญญาที่จะปรับเปลี่ยนงบประมาณการใช้จ่าย ให้หันมาเน้นช่วยเหลือการเลี้ยงดูบุตรของครอบครัวต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีลูก รวมทั้งให้ความเหลือแก่เกษตรกร ขณะเดียวกันก็จะดึงอำนาจควบคุมกำหนดนโยบายต่างๆ ออกมาจากมือของพวกข้าราชการ ซึ่งทางพรรคประณามว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ญี่ปุ่นล้มเหลวในการแก้ไขปัญหา ต่างๆ เป็นต้นว่า ระบบบำนาญที่กำลังเกิดช่องโหว่มากมาย
อย่างไรก็ดี โนริฮิโกะ นาริตะ ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยสุรุกาดาอิ ซึ่งอยู่ใกล้กรุงโตเกียว ทักท้วงว่า ในขณะที่ดีพีเจพูดว่าพวกเขาจะหลีกหนีไม่ให้ข้าราชการเข้าครอบงำการเมือง แต่พวกเขาก็จะต้องมีทักษะความชำนาญในการใช้ข้าราชการเพื่อปฏิบัติให้เป็นไป ตามนโยบายของพวกเขาด้วย
ดีพีเจยังประกาศว่าต้องการปรับนโยบายการต่างประเทศ ซึ่งจะมีความเป็นอิสระมากขึ้น ขึ้นต่อพึ่งพิงสหรัฐฯน้อยลง ขณะที่จะสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับประเทศอื่นๆ ในเอเชีย
เอ็กซิตโพลชี้ พรรคฝ่ายค้านญี่ปุ่นชนะเลือกตั้งถล่มทลาย (อัพเดต)
ฝ่ายค้านญี่ปุ่น ชนะเลือกตั้ง คะแนนถล่มทลาย
หะ!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น